Credit: Tripzilla
February 2020

เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก คุณคงอยากจะลองทำทุกอย่างให้ได้ภายในวันเดียว แต่สำหรับคนที่แค่แวะพักที่เมืองนี้หรือมีเวลาแค่ 24 ชั่วโมง บทความนี้จะช่วยให้คุณได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุดในมหานครอันน่าทึ่งแห่งนี้


ฝากกระเป๋าสัมภาระไว้ที่สนามบิน


คุณสามารถฝากกระเป๋าสัมภาระไว้ที่เทอร์มินัล 1, 2, 4 และ 5 ของสนามบิน John F. Kennedy (JFK) International Airport ได้ ค่าฝากจะขึ้นอยู่กับขนาดกระเป๋าสัมภาระ โดยจะอยู่ระหว่าง 4-16 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เฉพาะส่วนรับฝากกระเป๋าที่เทอร์มินัล 4 เท่านั้นที่เปิด 24 ชม.


ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกของสนามบิน ถ้าจำเป็น


ผู้โดยสารทุกคนสามารถใช้ Airspace Lounge ที่เทอร์มินัล 5 ของสนามบิน JFK ได้ โดยค่าบริการจะอยู่ระหว่าง 20-35 ดอลลาร์สหรัฐต่อครั้ง สิ่งอำนวยความสะดวกของสนามบิน ได้แก่ ห้องอาบน้ำ สัญญาณอินเทอร์เน็ต ศูนย์ธุรกิจ รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มมากมาย เลานจ์ตั้งอยู่ระหว่างเกต 24 กับ 25 หลังผ่านด่านตรวจเข้ามา และให้บริการเฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงเทอร์มินัล 5 เท่านั้น ส่วนที่เทอร์มินัล 4 ก็มีบริการห้องอาบน้ำเหมือนกันหลังผ่านด่านตรวจ


ทำความคุ้นเคยกับระบบขนส่ง


เราแนะนำให้คุณเที่ยวชมเมืองโดยการเดินหรือรถไฟใต้ดิน เพราะว่ารถประจำทางของนิวยอร์กอาจจะทำให้คุณสับสนได้ ส่วนรถแท็กซี่สีเหลืองก็มีราคาแพง และเนื่องจากรถไฟใต้ดินของนิวยอร์กครอบคลุมทุกพื้นที่ การเดินทางในนิวยอร์กจึงทำได้ง่าย ๆ แค่มีแผนที่ดี ๆ และมีเซนส์ด้านทิศทางบ้างเท่านั้น


คุณต้องทำบัตร MetroCard เพื่อใช้บริการรถไฟใต้ดินกับรถประจำทาง บัตร MetroCard ราคา 1 ดอลลาร์ แต่คุณจะเติมเงินเท่าไหร่ก็ได้ ค่าโดยสารเบื้องต้นจะอยู่ที่ 2.5 ดอลลาร์ต่อเที่ยว และถ้าคุณเติมเงินมากกว่า 5 ดอลลาร์ ก็จะได้เครดิตเพิ่มอีก 5% ตอนไปเอาบัตร MetroCard อย่าลืมหยิบแผนที่รถไฟฟ้าและแผนที่เมืองมาด้วย คุณจะได้เดินทางในเมืองได้ง่ายขึ้น


ยามเช้าในนิวยอร์ก

สนามบิน JFK ตั้งอยู่ในเมืองควีนส์ ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแมนฮัตตันมาไม่ไกล เพื่อให้ทริปคุ้มค่าที่สุด แนะนำให้คุณเริ่มจากไปเยือนสะพานบรูคลินชื่อดัง แล้วเดินเล่นข้ามไปแมนฮัตตัน


อาหารเช้า


กินอาหารเช้าให้อิ่มท้อง ก่อนจะไปเดินข้ามสะพานบรูคลินอันโด่งดังไปยังแมนฮัตตัน ตรงตีนสะพานบรูคลินมีร้าน Grimaldi's Pizzeria ซึ่งเป็นร้านแฟรนไชส์ที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพและขายพิซซ่าทั้งถาดอบใหม่ ๆ จากเตาถ่าน คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยพิซซ่ารสชาติดีที่สุดในนิวยอร์กพลางชมเมืองแมนฮัตตันอีกแล้ว


แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า Grimaldi’s Pizzeria ไม่รับจองโต๊ะและคิวก็ยาวมาก โดยเฉพาะในหน้าร้อน หรือถ้าคุณไม่อยากกินพิซซ่าทั้งถาด ก็สามารถลองไปกินครัวซองต์และขนมปังบาเก็ตที่อร่อยที่สุดในนิวยอร์กซิตีที่ร้าน Almondine Bakery ได้


เดินเล่นบนสะพานบรูคลิน


สะพานบรูคลินเป็นหนึ่งในสะพานแขวนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และเชื่อมเมืองแมนฮัตตันกับควีนส์เข้าด้วยกัน เมื่อมาที่นี่ คุณจะได้ตื่นตาตื่นใจกับทั้งสถาปัตยกรรมสวย ๆ และชายฝั่งทะเลที่งดงามของเมืองแมนฮัตตัน บนสะพาน คุณจะเห็นคู่รักหลายคนนำแม่กุญแจมาล็อกเอาไว้ คุณเองก็ทำแบบนั้นได้เหมือนกัน


หลังจากข้ามสะพานมาแล้ว ให้มุ่งหน้าลงใต้มายังถนนบรอดเวย์เพื่อไปยัง Battery Park


ชมงานประติมากรรม Charging Bull ที่ถนนวอลล์สตรีท


ระหว่างทางไป Battery Park คุณจะได้พบกับ Charging Bull แห่งถนนวอลล์สตรีท ผลงานประติมากรรมทองเหลืองขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใน Bowling Green Park ชิ้นนี้เป็นสัญลักษณ์แทนตลาดหุ้นที่พุ่งทะยานเหมือนอย่างที่บรรดานักซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดวอลล์สตรีททุกคนหวังไว้


หยุดพักสักครู่ที่ Battery Park


Battery Park ตั้งอยู่บริเวณล่างสุดของเกาะแมนฮัตตันและเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในนิวยอร์กซิตี สิ่งที่น่าสนใจของสวนแห่งนี้คือ Castle Clinton ป้อมหินทรายทรงกลมที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานีตรวจคนเข้าเมืองแห่งแรกของอเมริกาและเคยต้อนรับผู้คนมาแล้วกว่า 8 ล้านคนตั้งแต่ปี 1855 จนถึงปี 1890


ที่ Battery Park คุณยังจะได้เห็นวิวสวย ๆ ของแม่น้ำฮัดสัน, ท่าเรือนิวยอร์ก และอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพด้วย แต่ถ้าคุณอยากชมอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพใกล้ ๆ ก็สามารถนั่งเรือข้ามฟาก Staten Island Ferry ที่ Battery Park ไปยัง Liberty Island ได้


เดินทางไปเยือนอนุสรณ์และพิพิธภัณฑ์รำลึกเหตุการณ์ 9/11


จาก Battery Park คุณสามารถเดินเท้าไปที่อนุสรณ์และพิพิธภัณฑ์รำลึกเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งอยู่ในบริเวณที่ตั้งของอาคารเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ในเมืองแมนฮัตตันตอนล่าง แล้วใช้เวลาสักครู่ชมนิทรรศการและศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่สร้างรอยแผลอันยากจะลืมเลือนให้แก่ผู้คนบนโลก 


ยามบ่ายในนิวยอร์ก


ตื่นตาตื่นตื่นใจกับความยิ่งใหญ่ของ Grand Central Terminal


หลังจากเที่ยวชมบริเวณตอนใต้ของเกาะแมนฮัตตันแล้ว ให้คุณขึ้นรถไฟใต้ดินไปยัง Grand Central Terminal ที่เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของมิดทาวน์แมนฮัตตัน ที่นี่คือสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพราะมีถึง 44 ชานชาลา และถึงแม้จะอายุ 100 ปีแล้ว ก็ยังคงมีผู้คนจากทั่วโลกเข้ามาใช้บริการกันอย่างคึกคักในแต่ละวัน นอกจากจะได้ชมสถาปัตยกรรม Beaux-Art ที่งดงามและยิ่งใหญ่ตระการตาแล้ว ยังมีร้านค้าและร้านอาหารมากมายในบริเวณนั้นให้คุณได้ช้อปปิ้งและลิ้มลองอาหารแสนอร่อยด้วย และก่อนจะกลับ อย่าลืมแวะไปที่ Whispering Gallery


อาหารกลางวัน


ตอนอยู่ใน Grand Central Terminal คุณสามารถแวะไปรับประทานอาหารกลางวันที่ Grand Central Oyster Bar & Restaurant ได้ ร้านนี้เปิดให้บริการใน Grand Central Terminal มาตั้งแต่ปี 1913 และเสิร์ฟอาหารทะเลหลากหลายเมนูจนคุณอาจจะเลือกไม่ถูกว่าจะสั่งอะไรดี แต่ถ้าคุณอยากกินอะไรง่าย ๆ อย่างเบอร์เกอร์สไตล์นิวยอร์ก ร้าน Shake Shack ใน Grand Central Terminal ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย 


ดื่มด่ำศิลปะที่ Museum of Modern Art (MoMA)


พิพิธภัณฑ์ MoMA อยู่ห่างจาก Grand Central Terminal มาไม่ไกลเท่าไหร่นัก และเป็นสถานที่อันดับแรก ๆ ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนถ้ามานิวยอร์ก  นอกจากผลงานชิ้นเอก อย่างเช่น ภาพวาด Campbell's Soup Cans ของ Warhol และภาพวาด Starry Night ของ  Van Gogh แล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ยังมีแกลเลอรีงานประติมากรรมและภาพถ่าย ศิลปะการแสดง และคอลเลกชันภาพยนตร์อีกจำนวนมาก และถ้าคุณแวะมาวันศุกร์ ถือว่าโชคดี เพราะทางพิพิธภัณฑ์ไม่เก็บค่าเข้าชมตั้งแต่ 16.00 - 20.00 น. ดังนั้นวางแผนมาให้รอบคอบ


เดินเล่นใน Central Park


ห่างจากพิพิธภัณฑ์ MoMA ไม่ไกลมาทางทิศเหนือ เป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะ Central Park อันโด่งดัง ซึ่งอยู่บริเวณทางตอนเหนือของเกาะแมนฮัตตัน ที่นี่มีกิจกรรมให้คุณทำมากมายตลอดทั้งปี ทั้งปั่นจักรยานในหน้าร้อน เล่นไอซ์สเก็ตในหน้าหนาว พลางชมทัศนียภาพที่งดงามจับตา หรือจะเดินเล่น ปิกนิกบนสนามหญ้าท่ามกลางโอเอซิสสีเขียวใจกลางเมืองแห่งนี้ก็ได้ รับรองว่าคุณจะรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนแม้ว่าจะอยู่ในท่ามกลางป่าคอนกรีตก็ตาม นอกจากนี้ ภายในสวนยังมีการจัดกิจกรรมและคอนเสิร์ตด้วย


ยามค่ำในนิวยอร์ก


ชมพระอาทิตย์ตกที่ The High Line


พอตกค่ำ คุณสามารถนั่งรถไฟใต้ดินไปยังสวนลอยฟ้า High Line ที่สร้างขึ้นบนทางรถไฟเก่าที่ไม่ใช้งานแล้ว จากสวนลอยฟ้าแห่งนี้ คุณจะมองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกเหนือแม่น้ำฮัดสันโดยมีขอบฟ้าสวย ๆ ของเมืองเป็นฉากหลัง กลายเป็นภาพที่งดงามตรึงใจ โดยคุณจะรู้สึกเหมือนได้หลุดพ้นจากความวุ่นวายที่อยู่ด้านล่าง 


อาหารค่ำ


ในย่านทันสมัยของกรุงนิวยอร์กอย่าง Meatpacking District มีร้านอาหารค่ำให้คุณเลือกมากมาย ถ้าคุณอยากลิ้มลองรสชาติอาหารสุดหรู ร้านอาหารที่รองรับลูกค้าได้ถึง 260 ท่านอย่างร้าน Catch อาจจะถูกใจคุณ แถมยังมีโอกาสเจอคนดังด้วย ส่วน Spice Market ก็น่าไปลองไม่แพ้กัน หากคุณอยากจะชิมอาหารสตรีทฟู้ดสไตล์เอเชียในแบบไฟน์ไดนิง


ในย่านเดียวกัน ยังมี Chelsea Market ที่เป็นสวรรค์ของคนชอบกิน คุณต้องไม่พลาดล็อบสเตอร์โรลและซูชิบาร์ของ The Lobster Place อย่างเด็ดขาด และหลังจากกินของคาวเสร็จแล้ว ล้างปากด้วยไอศกรีมหรือหวานเย็นของร้าน L’arte Del Gelato และ People’s Pops เป็นการปิดท้ายมื้ออาหาร


ละลานตากับแสงไฟที่ไทม์สแควร์


คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการมาสัมผัสด้วยตัวเองว่าทำไมนิวยอร์กถึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล ให้คุณนั่งรถไฟใต้ดินมาที่ไทม์สแควร์ แล้วตื่นตาตื่นใจกับแสงไฟนีออนและบิลบอร์ดที่สว่างไสวตลอดทั้งคืน ร้านค้าและร้านอาหารบางร้านในย่านนี้เปิดให้บริการลูกค้าจนดึก จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมย่านไทม์สแควร์ถึงคึกคักไปด้วยกิจกรรมมากมาย เหมาะกับคนที่อยากมาช้อปปิ้งหรือหาของว่างรับประทานตอนกลางคืน อย่างไรก็ตาม ร้านส่วนใหญ่ไม่ได้เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงอย่างที่หลายคนเข้าใจ ดังนั้นพอคนซาลง ให้มุ่งหน้าไปที่ Meatpacking District อีกครั้ง 


ปาร์ตี้ให้สุดเหวี่ยงที่ Meatpacking District


ไปเยือน Le Bain หนึ่งในไนท์คลับที่อินเทรนด์ที่สุดในย่าน Meatpacking District  Le Bain เปิดเพลงฮิตและได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวฮิปสเตอร์ นักดนตรีมืออาชีพรุ่นเยาว์ และนักท่องเที่ยว สนุกกับการกระโดดลงสระว่ายน้ำหรือเพลิดเพลินกับบาร์บนดาดฟ้า โบนัส: คุณจะเห็นวิวสวย ๆ ของแม่น้ำฮัดสัน, ตึกเอมไพร์สเตท และอาคารฟรีดอมทาวเวอร์ได้จากระเบียง 


ถ้าคุณเข้าเมืองมาในวันจันทร์หรือวันอังคาร ซึ่งเป็นวันปิดร้านของ Le Bain ก็ให้มุ่งหน้าไป Avenue ที่ตั้งอยู่ในอาคารสองชั้นแทน ไนท์คลับแห่งนี้นิยามได้ด้วยคำคำเดียวคือ “มีระดับ” ไม่ว่าจะเป็นแชนเดเลียร์ เทียน และผ้าม่าน ทั้งบาร์กลางแจ้ง, Bottle Service,  ประกอบกับบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมของร้านถือเป็นการปิดท้ายทริปในนิวยอร์กได้อย่างงดงาม และรู้ไหมว่า ครั้งหนึ่ง Avenue เคยไปจัดงานปาร์ตี้ส่วนตัวให้ Kim Kardashian ด้วย 


จริง ๆ แล้วเวลา 24 ชั่วโมงถือว่าน้อยเกินไปมากถ้าอยากสำรวจสิ่งมหัศจรรย์ให้ครบทุกอย่างในนิวยอร์ก อย่างไรก็ตาม คู่มือนี้จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์เติมเต็มครบทุกด้านในมหานครที่แสนคึกคักแห่งนี้ ใครจะไปรู้ ในอนาคตคุณอาจจะกลับมาที่นี่อีกครั้งโดยไม่ได้มาแวะพักอย่างเดียวก็ได้  


คุณอาจสนใจ

     SHARE
บ้าน ไฮไลท์ แบบทดสอบการเดินทาง ปลายทาง แรงบันดาลใจในการเดินทาง ข้อเสนอ จองตอนนี้ วางแผน เกี่ยวกับ
Select country :
Language :