แคลิฟอร์เนียน่าเที่ยวตลอดทั้งปี แต่ถ้าเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม คุณก็จะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดกลับไป ก่อนจะจองตั๋วไปแคลิฟอร์เนีย มาดูกันว่าควรไปเที่ยวช่วงเวลาไหนถึงจะดีที่สุด

แคลิฟอร์เนียใต้

 
[เครดิตรูปภาพ: Meric Dagli/Unsplash]

แคลิฟอร์เนียใต้มอบประสบการณ์อย่างชาวแคลิฟอร์เนียแท้ ๆ ผ่านบรรยากาศอิสระเสรี ชาดหาดสวย ๆ และป้ายฮอลลีวูด  ถึงแม้ว่าลอสแอนเจลิส ออเรนจ์เคาน์ตี และซานดิเอโก จะมีอากาศดีตลอดทั้งปี แต่ว่าอุณหภูมิจะหนาวเย็นตั้งแต่สิ้นเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนเมษายน ตามมาด้วย “สภาพอากาศแบบฟ้าครึ้มในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน” ซึ่งอาจจะทำให้ไม่เหมาะกับการไปพักผ่อนริมชายหาด ดังนั้น ให้คุณเลือกมาเที่ยวที่นี่่ในช่วงเดือนตุลาคม เพราะคนจะค่อนข้างน้อย อากาศสดใส มีกระแสลมอบอุ่น Santa Ana พัดตลอดเวลา

ซานฟรานซิสโก

[เครดิตรูปภาพ: Ferdinand Stohr/Unsplash]

ซานฟรานซิสโกคือดินแดนของเคเบิลคาร์ คุกอัลคาทราซ และสะพานโกลเด้นเกต ซึ่งเป็นที่ถูกใจของใครหลาย ๆ คน (ลองถาม  Tony Bennett ดูสิ) แต่อย่าคาดหวังว่าคุณจะได้ขับรถเปิดประทุนกินลมชมวิว เพราะสภาพอากาศของซานฟรานซิสโกค่อนข้างแปรปรวน โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่มักจะมีอากาศเย็นถ้ามีเมฆหมอกหรือฝนตก ไม่เหมือนกับแคลิฟอร์เนียตอนใต้ที่มีแสงแดดสดใส ดังนั้นแนะนำให้คุณวางแผนมาเที่ยวในเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนหรือช่วงที่เรียกว่า “Indian Summer” ของซานฟรานซิสโก ซึ่งท้องฟ้าจะสดใส มีแสงแดดอบอุ่น และฝนตกเล็กน้อย 

ดินแดนแห่งไวน์

Image: Sonoma
Image credit: Trent Erwin/Unsplash

หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์ในเมืองแห่งการทำไวน์อย่างเต็มที่ คุณต้องไปเที่ยวนาปาหรือโซโนมาในหน้าเก็บเกี่ยวองุ่นในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งใบองุ่นจะเริ่มแห้งกรอบร่วงลงสู่พื้นดิน แต่อย่าลืมว่าในช่วงนี้ค่าที่พักและทัวร์ไร่องุ่นจะทะยานขึ้นสูงมากในช่วงพีคระหว่างเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม ดังนั้นเราแนะนำให้คุณไปในช่วงท้าย ๆ ของฤดูเก็บเกี่ยวในเดือนพฤศจิกายน โดยรอให้คนซา ๆ ลงก่อน ส่วนคนชอบดื่มไวน์อาจจะสนใจไปดินแดนแห่งไวน์ในซานตาบาร์บาราและโรงไวน์ฮิป ๆ ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองลอสแอนเจลิสมาแค่ 45 นาทีเท่านั้น

แมมมอธและทาโฮ

Image: Tahoe
Image credit: Wil Stewart/Unsplash

แคลิฟอร์เนียอาจจะขึ้นชื่อเรื่องสายลม แสงแดด และสาว ๆ ในชุดบิกินี แต่จริง ๆ แล้วที่นี่เป็นจุดหมายของคนชอบสกีด้วยเหมือนกัน คราวนี้คุณไม่ต้องไป Bear Mountain ในแอลเอตะวันออก (เรื่องนี้เชื่อเราเถอะ) แล้ว แต่ให้มุ่งหน้าไปแมมมอธหรือทาโฮแทน ซึ่งคุณจะได้พบกับสกีรีสอร์ทที่ได้ชื่อว่ามีหิมะคุณภาพดีที่สุดในประเทศแห่งหนึ่ง การวางแผนทริปสกีก็เหมือนการพนัน แต่คุณจะมีโอกาสได้เจอหิมะดี ๆ มากที่สุดในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน แต่ถ้าคุณไม่ชอบสกี ทะเลสาบทาโฮก็มีทัศนียภาพอันงดงามตระการตาไม่น้อยเลยในหน้าร้อน

Yosemite National Park

 
เครดิตรูปภาพ: Maxime Daguet/Unsplash

นักเดินทางที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งคงไม่อยากพลาด Yosemite อุทยานแห่งชาติที่ดีที่สุดในอเมริกาแน่ ๆ เพราะที่นี่ คุณจะสามารถเดินขึ้นไปชมน้ำตกที่ซ่อนอยู่ในป่า ชมสัตว์ป่า และใช้เวลาใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในตอนกลางคืน หน้าร้อนอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับการเที่ยว Yosemite เท่าไหร่ เพราะอากาศจะร้อนมาก แถมคนยังเยอะด้วย ดังนั้น เราแนะนำให้คุณมาเที่ยวที่นี่ในฤดูใบไม้ผลิ เพราะอากาศอบอุ่น แต่ไม่ร้อนเกินไป แถมยังเป็นฤดูที่ดอกไม้แข่งกันบานจนละลานตา และถ้าคุณอยากมาเที่ยวน้ำตก ควรมาในช่วงเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนมิถุนายน แต่ให้หลีกเลี่ยงช่วงวันรำลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติ

Disneyland

 
เครดิตรูปภาพ: Skylar Sahakian/Unsplash

Disneyland คือดินแดนที่เต็มไปด้วยความสนุกสุดหรรษาที่สุดในโลก แต่คุณคงไม่รู้สึกแบบนั้นแน่ ๆ ถ้าต้องรอคิวขึ้นเครื่องเล่น Splash Mountain ถึงสองชั่วโมง ดังนั้น ถ้าไม่อยากเจอคนเยอะ ๆ อย่ามาในช่วงหน้าร้อน วันหยุดสุดสัปดาห์ และช่วงระหว่างวันขอบคุณพระเจ้าจนถึงปีใหม่เด็ดขาด แต่ควรมาราว ๆ ปลายเดือนมกราคมตอนสิ้นสุดวันหยุดฤดูหนาวไปแล้ว เพราะสวนสนุกจะไม่ค่อยมีคน แม้ว่าอากาศในช่วงนี้จะไม่สดใสเท่าไหร่ (เพราะฉะนั้นสวมเสื้อคลุมมาด้วย) แต่อย่างน้อย คุณก็จะได้เล่นเครื่องเล่นชิ้นโปรดได้มากกว่าสองสามรอบแน่นอน แถมยังไม่ต้องโดนแดดเผาด้วย