Credit: The Urban Lifestyle Magazine, ศรัณยู นกแก้ว
June 2020

หากงานรัดตัว จนแทบไม่มีเวลาลาพักร้อน การได้เปลี่ยนที่นอน ไปเช็กอินในโรงแรมเก๋ๆ สักคืน ก็เป็นอีกเหตุผลที่จะทำให้ กายและใจผ่อนคลายขึ้นมาได้ เช่นเดียวกับ 3 โรงแรม ที่จะเข้ามากระชับพื้นที่ความบูติก ให้กรุงเทพฯ มีความ ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

1. Viamala Residence




 

ใครจะคาดคิดว่าใจกลางย่านธุรกิจอย่างซอยสุขุมวิท 26 จะมีแฟมิลีลอดจ์ขนาดอบอุ่น 9 ห้องอยู่ แต่ย้อนไปในราวร้อยปีก่อนเมื่อครั้งที่ย่านสุขุมวิทแห่งนี้ถูกเรียกว่าทุ่งบางกะปิ ความเย็นสบายของลมที่พัดมาจากท้องทุ่งทำให้เจ้านายชั้นสูงเลือกที่จะมาปลูกตำหนักในย่านนี้ และหนึ่งในนั้นคือนาวาโท หม่อมเจ้าอุทัยเฉลิมลาภ วุฒิชัย และพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิมลฉัตร ผู้สร้างชีวิตให้กับวิมาลา เรสซิเดนซ์ ซึ่งปรับปรุงมาจากบ้านพักสไตล์แมนชั่นที่ตั้งอยู่ในรั้วเดียวกับตำหนักเฉลิมลาภ

ที่นี่เปรียบได้กับพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่ผู้เข้าพักจะได้เห็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ผ่านเครื่องเรือน ภาพถ่าย และของตกแต่งที่เหมือนกับหยุดเวลาไว้ในอดีต ห้องพักทุกหลังเน้นความกว้างขวาง แถมจัด

ฟังก์ชันการใช้สอยและบรรยากาศให้เหมือนบ้านมากกว่าโรงแรม ใส่โทนสีน้ำเงินเข้มตัดกับสีขาว แสงธรรมชาติ และเครื่องเรือนไม้สีน้ำตาลอุ่น แต่ที่ทุกคนต้องหลงรักคือล็อบบี้ Royal Blue ที่มีโต๊ะยาวสำหรับนั่งรับประทานอาหารตั้งอยู่ตรงกลาง พร้อมด้วยของตกแต่งที่เหมือนนั่งไทม์แมชีนย้อนเวลาสู่ความสงบเงียบแห่งทุ่งบางกะปิได้เลยจริงๆ (vimala-residence.com)

 

2. Hotel Nikko Bangkok


 

โอโมเตะนาชิ (Omotenashi) คือการบริการแบบญี่ปุ่นที่เป็นซิกเนเจอร์ของโรงแรมนิกโก้ กรุงเทพฯ แม้ดีไซน์ของห้องพักจะออกไปในแนวร่วมสมัยแต่ก็ใส่รายละเอียดความเรียบแต่มากด้วยดีเทลแบบฉบับชาวอาทิตย์อุทัยลงไปในทุกมุม โดยเฉพาะห้องอาบน้ำและห้องน้ำที่ออกแบบมาโดยเฉพาะและกลายเป็นอีกจุดขายของที่นี่ ไม่เพียงเท่านั้นหลังจากการนอนเต็มอิ่มก็จะตื่นมาเจอกับอาหารเช้าญี่ปุ่นหลากหลายเมนูและบุฟเฟต์เทมปุระในมื้อเย็นของห้องอาหารฮิโช (Hishou) เรียกได้ว่าหากใครต้องการสัมผัสประสบการณ์ผ่อนคลายสไตล์ญี่ปุ่น ที่นี่ตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน (www.nikkobangkok.com)

 

3. The Raweekanlaya Bangkok




 

เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก โรงแรมใต้ความร่มรื่นของร่มไม้ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางประวัติศาสตร์ของย่านเก่าเทเวศร์ ตัวโรงแรมปรับปรุงมาจากเรือนไม้เก่าในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของวังเทเวศร์มาก่อน นอกจากความผ่อนคลายแล้ว ความประณีตของงานไม้แบบไทยๆ จึงเป็นสิ่งที่ผู้เข้าพักได้สัมผัส เข้ากันได้ดีกับของตกแต่งไทยๆ ที่ผสมผสานอยู่ในห้องพักทั้ง 38 ห้อง ด้าน Imperial Spa ของที่นี่ก็ยังคงคอนเซปต์ไทยด้วยเทคนิคการนวดไทยจากสถาบันสุขภาพโพธาลัยซึ่งพัฒนามาจากต้นตำรับวัดโพธิ์ และที่จะขาดไม่ได้สำหรับการมาเช็กอินที่นี่คือการได้ว่ายน้ำ นอนอ่านหนังสือเงียบสงบกลางสวนขนาดใหญ่ที่ตัดความวุ่นวายของกรุงเทพฯ ไปอย่างสิ้นเชิง

อีกจุดขายของที่นี่คือ เดอะ ระวีกัลยา ไดนิ่ง ร้านอาหารรสมือพระนมทัต ซึ่งเป็นพระนมของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทั้งขนมจีนซาวน้ำ น้ำพริกลงเรือ ขนมเหนียว ม้าฮ่อ หมี่กรอบ มาครบ ใครถามหาอาหารไทยรสไทยแท้รับรองไม่ผิดหวัง (www.raweekanlaya.com


คุณอาจสนใจ

     SHARE
บ้าน ไฮไลท์ แบบทดสอบการเดินทาง ปลายทาง แรงบันดาลใจในการเดินทาง ข้อเสนอ จองตอนนี้ วางแผน เกี่ยวกับ
Select country :
Language :