ลองนึกถึงเสื้อคู่รัก น้ำทะเลสีฟ้าใส และกังหันลมอันใหญ่ที่กระจายอยู่บนทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตาดูสิ ทุกอย่างอยู่บนเกาะเชจู ซึ่งเป็นหนึ่งในเกาะที่สวยงามและโรแมนติกที่สุดเท่าที่คุณเคยเดินทางไปเยือน นอกจากพระอาทิตย์ขึ้นบนท้องฟ้าสีน้ำเงินที่งดงามจับตาแล้ว บนเกาะแห่งนี้ยังมีคาเฟ่ธีมชายหาดอยู่ทั่วทั้งเกาะด้วย
หากคุณมีเวลาเที่ยวแค่ 72 ชั่วโมง เกาะเชจูเหมาะมากสำหรับการเที่ยวแบบขับรถชมบ้านเมือง และต่อไปนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ บนเกาะเชจู ให้คุณได้ใช้เวลาทุกนาทีบนเกาะอย่างคุ้มค่าที่สุด
เครดิตรูปภาพ: Hoonie’s Home in Jeju Island
แลนด์มาร์กที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะเชจูก็คือ Hallasan National Park ซึ่งคุณจะเห็นเป็นอย่างแรกเมื่อเดินทางมาถึงเกาะ ซึ่งถึงแม้ว่าภูเขาลูกนี้จะสูงที่สุดในเกาหลีใต้ แต่ว่าการเดินขึ้นไปบนยอดเขานั้นใช้เวลาแค่ 9 ชั่วโมง อาจจะฟังดูเหนื่อย แต่ว่ามันคุ้มค่ากับวิวน่าตื่นตาตื่นใจบนยอดเขาจริง ๆ
Along Eorimok และ Yeongsil Trail
เครดิตรูปภาพ: Whnjejuisland
สำหรับคนที่ยังเป็นมือใหม่ในการเดินป่า คุณสามารถเลือกเส้นทาง Eorimok หรือ Yeongsil ซึ่งจะพาคุณขึ้นไปจนถึงบริเวณกลางภูเขา แต่คนที่เดินป่าจนช่ำชองแล้ว เราแนะนำให้เลือกเส้นทาง Seongpanak และ Gwaneumsa เพื่อขึ้นไปยังยอดเขา
เครดิตรูปภาพ: Clash Boom Band
หากคุณคิดว่ามาเดินป่าทั้งทีจะต้องคุ้มค่า เราแนะนำให้เลือกเส้นทาง Gwaneumsa ซึ่งจะผ่าน Guringul (ถ้ำลาวา) และมองเห็นวิวที่สวยงามที่สุดของหมู่บ้านบนเนินบนภูเขา Mt. Hallasan
เครดิตรูปภาพ: Jeju Tourism Organization Blog
ราคา: ฟรี
ที่อยู่: 2070-61, 1100-ro, Jeju-si, Jeju-do
ชั่วโมงเปิดทำการ:
เดินป่าได้ทุกวัน เฉพาะกลางวันเท่านั้น เวลาเปิดประตูทางเข้าจะขึ้นอยู่กับฤดูกาล
*เคล็ดลับจากมือโปร: สวมชุดเดินป่าให้เหมาะสม และเตรียมตัวมารับมือกับสภาพอากาศหนาวด้วย
เครดิตรูปภาพ: Hotel Nanta
จาก Mt. Hallasan ขับรถมาประมาณ 10 กม. ก็จะถึง Hotel NANTA ซึ่งการเข้าพักที่นี่คุ้มค่าเงินมาก ๆ เพราะโรงแรมอยู่ใกล้กับภูเขาพอดี คุณจึงไม่ต้องเสียเวลาขับรถไกล ๆ หลังจากเดินป่าเสร็จ
ห้องพักทุกห้องสะดวกสบายและกว้างขวางเพียงพอให้เพื่อน ๆ และครอบครัวอยู่ด้วยกัน จากโรงแรมสามารถมองเห็นวิวของ Mt. Hallasan และท้องทะเลที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกายระยิบระยับของเกาะเชจูได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถอร่อยกับอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ที่ Cookin’ ซึ่งเป็นร้านอาหารหลักของโรงแรม และผ่อนคลายริมสระน้ำหลังจากอิ่มท้องได้ด้วย
ราคา: ห้องธรรมดาราคาเริ่มต้นที่ 97 ดอลลาร์สิงคโปร์/คืน
ที่อยู่: 56-26, Seondolmokdong-gil, Jeju-si, Jeju-do, South Korea
ลิงก์: Hotel Nanta
เครดิตรูปภาพ: a as architecture
Monsant Café เป็นคาเฟ่ที่ฮ็อตที่สุดบนเกาะเชจู ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเจ้าของคือ G-Dragon สมาชิกของวง BIGBANG วงบอยแบนด์ชื่อดังของเกาหลี แต่ว่าชื่อเสียงของเจ้าของไม่ได้เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้คาเฟ่แห่งนี้โดดเด่น เพราะตัวคาเฟ่เองออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นประตูกระจกขนาดใหญ่ พื้นหิน และผนังคอนกรีตเป็นรอยแตก แถมที่นี่ยังเป็นร้านอาหารค่ำเพียงแห่งเดียวในบริเวณนี้ที่มีสถาปัตยกรรมมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอย่างนี้
เครดิตรูปภาพ: a as Architecture
คาเฟ่เสิร์ฟเค้กและกาแฟเป็นหลัก และร้านค่อนข้างเล็กถ้าเทียบกับคาเฟ่อื่น ๆ ในแอวอล ดังนั้น คุณอาจจะไม่มีโอกาสได้นั่งในร้าน เราแนะนำให้คุณไปคาเฟ่ในตอนเช้าเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นและหลีกเลี่ยงคนเยอะ ๆ
เครดิตรูปภาพ: lurvethelife
ขึ้นไปนั่งบนเรือคายัคโปร่งแสงและพายเรือล่องไปบนน้ำใสสะอาดในย่านแอวอล แล้วตื่นตาตื่นใจกับภาพของมหาสมุทรใต้เท้าของคุณโดยไม่ต้องกลัวว่าจะเปียก จากนั้นปิดท้ายทริปด้วยของหวานแสนอร่อยของร้าน Bomnal Café (อยู่ใกล้กับชายหาด) เค้กทีรามิสุสักชิ้นเติมพลังให้คุณได้เป็นอย่างดีหลังจากพายเรือคายัคมาเป็นเวลานาน
เครดิตรูปภาพ: Sheryl Bella
ราคา: ~5,000 วอน (6 ดอลลาร์สิงคโปร์) ขึ้นไป
ที่อยู่: 56-1 Aewolbukseo-gil, Aewol-eup, Cheju, Jeju-do
เวลาเปิดทำการ:
ทุกวัน 9.00 - 21.00 น.
*เคล็ดลับสำหรับมือโปร: ถ้าไม่อยากเจอคนเยอะ ๆ ควรไปชมวิวแต่เช้า
เครดิตรูปภาพ: Cavin Teo
O’sulloc Tea Museum เป็นหนึ่งในสถานที่บนเกาะเชจูที่คุณต้องไปเยือนให้ได้ คุณจะได้เดินชมไร่ชาบนเกาะและลิ้มรสผลผลิตจากไร่ชาสวย ๆ ที่ O’sulloc Café ทั้งชาเขียวทำสดใหม่ ของหวานนุ่มละมุนลิ้น และไอศกรีมแสนอร่อย รับรองเลยว่าคุณจะต้องรักที่นี่อย่างแน่นอนแม้ว่าคุณจะไม่ใช่แฟนชาเขียวก็ตาม นอกจากนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชาเขียวในแพคเกจน่ารัก ๆ จึงเหมาะกับการซื้อกลับบ้านไปฝากคนที่คุณรัก
เครดิตรูปภาพ: Travel with T
สำหรับคนที่ชอบเรื่องความสวยความงาม O’sulloc Tea Museum ยังมีร้าน Innisfree เป็นของตัวเอง ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่ผลิตมาวางจำหน่ายในร้านนี้โดยเฉพาะและหาซื้อจากที่อื่นไม่ได้อีกแล้ว ซึ่งถ้าคุณเดินทางมากับครอบครัว ร้าน Innisfree ก็ยังมีกิจกรรมทำสบู่สนุก ๆ ให้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ด้วย
ราคา: ฟรี
ที่อยู่: 15, Sinhwayeoksa-ro, Andeok-myeon, Seogwipo, Jeju Island 63521, South Korea
เวลาเปิดทำการ:
ทุกวัน 9.00 - 18.00 น.
เครดิตรูปภาพ: Kimchee Guesthouse Korea
Hyeopjae Beach เป็นสถานที่ทำกิจกรรมสำหรับครอบครัว ดังนั้นคุณจะเห็นครอบครัวและเด็กเล็ก ๆ มาที่นี่มากพอ ๆ กับคู่รักเลย จริง ๆ แล้ว ครอบครัวชาวเกาหลีหลายครอบครัวชอบมาจับปลาและปูตัวเล็ก ๆ ในสระน้ำตื้น แล้วค่อยปล่อยลงทะเล ซึ่งนี่เป็นกิจกรรมของเด็ก ๆ ที่คนเกาหลีคุ้นเคยกันดี โดยชายหาดแห่งนี้เปิดโอกาสให้พ่อแม่ได้พักผ่อนจากชีวิตในเมืองและแบ่งปันชีวิตวัยเด็กกับลูก ๆ
ที่อยู่: 329-10 Hallim-ro, Hallim-eub, Cheju, Jeju-do
เครดิตรูปภาพ: Expedia
ปีนขึ้นสู่ยอดเขา Seongsan Ilchulbong แล้วเพลิดเพลินกับวิวหลักล้านของร้านค้าสีสันสดใสบนชายฝั่งทะเล ทัศนียภาพทั้งสองฝั่งบนยอดเขาจะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจและรู้สึกคุ้มค่ากับการตื่นเช้ามาปีนเขาชมพระอาทิตย์ตก ทั้งสองเส้นทาง ใช้เวลาเดินแค่ 50 นาทีเท่านั้น และเหมาะกับทุกระดับความแข็งแรง
ราคา: ผู้ใหญ่ 2,000 วอน / วัยรุ่นและเด็ก ๆ 1,000 วอน
ที่อยู่: 284-12, Ilchul-ro, Seongsan-eup, Seogwipo-si, Jeju-do
เวลาเปิดทำการ:
1 ชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงตอนพระอาทิตย์ตก
*เคล็ดลับจากมือโปร: ไปแต่เช้าเพื่อเลี่ยงคนเยอะ
เครดิตรูปภาพ: Seoul Searching
ขับรถผ่านกังหันลมไปยัง Woljeongri Beach แล้วพบกับคาเฟ่ริมชายหาดละลานตาที่ออกแบบให้มีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่และตกแต่งอย่างเรียบง่าย ชายหาดนี้ขึ้นชื่อเรื่องคาเฟ่และการถ่ายรูปสวย ๆ มากกว่ากิจกรรมกีฬาทางน้
ที่อยู่: Woljeong-ri, Gujwa-eup, Jeju-si, Jeju-do
Woodstock Café เป็นคาเฟ่ที่คนชอบถ่ายรูปพลาดไม่ได้และเหมาะมากกับคนเล่น Instagram ด้านนอกอาจจะดูเรียบ ๆ แต่การออกแบบตกแต่งด้านในจะทำให้คุณตื่นตะลึง เพราะทุกห้องจะให้กลิ่นอายบรรยากาศแตกต่างกัน คุณจะรู้สึกเหมือนได้มา 5 คาเฟ่ในคราวเดียว
ถ้าอยากดื่มด่ำกับ ‘บรรยากาศของคาเฟ่’ อย่างเต็มที่ แนะนำให้สั่งเมนูเด็ดของร้านอย่างวานิลลาลาเต้มาจิบพลางชมวิวทะเลสวย ๆ จากเก้าอี้นวมนุ่มสบาย รับรองว่าคุณจะผ่อนคลายกว่าที่เคย
ราคา: 5,000 วอนขึ้นไป
ที่อยู่: 4-1, Woljeong-ri, Gujwa-eup, Jeju-si, Jeju
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 21.00 น.
เครดิตรูปภาพ: SugarSnap Photography
เครดิตรูปภาพ: Visit Jeju
ใกล้ ๆ กับ Woljeongri Beach ยังมีชายหาด Sehwa Beach ที่ตอบโจทย์ของคนชอบชายหาด น้ำทะเลสีฟ้าครามของที่นี่ไล่เฉดสีอย่างงดงาม จนดูเหมือนภาพตัดต่อจากโปรแกรม Photoshop เลย นอกจากถ่ายรูปริมชายหาดแล้ว คุณยังสามารถเข้าไปในคาเฟ่และร้านอาหารที่มีเรียงรายตลอดแนวชายหาด
ที่อยู่: Sehwa-gil, Gujwa-eup, Jeju-si, Jeju-do
หนึ่งในคาเฟ่ที่ควรไปเยือนมากที่สุดคือ Café Gongjakso Coffee and Dessert คาเฟ่ที่นิยมนำมาเป็นภาพบนโปสการ์ดแห่งนี้โดดเด่นเรื่องดีไซน์แปลกตาในธีมชายหาด ส่วนเมนูที่ขายดีของทางร้านคือ Yuzaide, Halabong Tea และเค้กแครอท
คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวนิยมซื้อโปสการ์ดราคาแค่ 1,500 มาเขียนส่งให้กับคนที่พวกเขารัก ดังนั้น คุณสามารถใช้เวลาที่นี่เลือกซื้อของที่ระลึก แล้วเขียนโปสการ์ดหรือจะนั่งจิบกาแฟอร่อย ๆ พลางพูดคุยกับเพื่อน ๆ และครอบครัวก็ได้
ที่อยู่: 1477-4 Saehwa-ri, Gujwa-eup, Cheju, Jeju-do, South Korea
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 21.00 น.
เครดิตรูปภาพ: Part of a World
Mazeland มีเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือน เพราะมีเขาวงกตขนาดใหญ่ให้คุณลองเดินเข้าไปสัมผัส สำหรับคนที่ไม่เก่งเรื่องทิศทาง ไม่ต้องกลัว เพราะการออกจากเขาวงกตแห่งนี้ไม่ได้เป็นเรื่องยากแต่อย่างใด ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่เขาวงกตธรรมดา ๆ เพราะสนามและพุ่มไม้ที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีเหล่านี้มีรายการทีวีและซีรีส์ชื่อดังของเกาหลีจำนวนมากมาถ่ายทำ เช่น รายการ Running Man และซีรีส์เรื่อง Legend of the Blue Sea เป็นต้น ดังนั้นลองมาปลุกความโรแมนติกระหว่างหาทางออกในเขาวงกตกันเถอะ
เครดิตรูปภาพ: Fitto
ราคา: 9,000 วอน
ที่อยู่: 2134-47, Bijarim-ro, Gujwa-eup, Jeju-si, Jeju-do
เวลาเปิดทำการ:
พฤศจิกายน - มกราคม: 09.00 – 17.30 น.
กุมภาพันธ์ - มีนาคม / ตุลาคม: 09.00 – 18.00 น.
เมษายน - พฤษภาคม: 09.00 – 18.30 น.
มิถุนายน - กันยายน: 09.00 - 19.00 น.
เครดิตรูปภาพ: Visit Jeju
Jeju Swiss Village ประกอบด้วยคาเฟ่ ร้านค้า และร้านอาหารสีสันสดใส รวมกันเป็นชุมชนน่ารัก ๆ แห่งหนึ่ง หมู่บ้านแห่งนี้ตัดขาดจากแหล่งท่องเที่ยวและเงียบสงบดูเหมือนเมืองที่ทุกคนหลับใหล และเป็นสถานที่โปรดของคนที่อยากหลีกหนีจากฝูงชนที่สับสนวุ่นวาย
ราคา: ฟรี
ที่อยู่: 1559-1 Wasan-ri, Jochon-eup, Cheju, Jeju-do, South Korea
เวลาเปิดทำการ:
ขึ้นอยู่กับเวลาเปิดทำการของร้าน
ถ้าคุณมาที่นี่ คุณสามารถแวะไปที่ร้าน Jeongseong Pizza ที่มีเจ้าของเป็นคนใจดีและรักสุนัข หน้าหนาวปีที่แล้ว เจ้าของร้านพิซซ่าเจอสุนัขจรจัดสองตัว เขาได้ให้ทั้งอาหารและความรักแก่พวกมัน จนถึงกับตัดสินใจสร้างบ้านให้มันอยู่เลยทีเดียว ความรักสัตว์ของเขาทำให้เจ้าของร้านยังได้ออกรายการ SNS Animal Show ด้วย
นอกเหนือจากพิซซ่าและสุนัขน่ารักแล้ว คุณยังสามารถขอคำแนะนำเกี่ยวกับกิจกรรมที่น่าสนใจบนเกาะเชจูได้เช่นกัน
ราคา: 7,000 วอนต่อพิซซ่า
ที่อยู่: บอกยากนิดนึง พอเข้าไปใน Swiss Village ให้คุณเดินไปทางขวา คุณจะเห็นบ้านหลังสีแดงและบ้านสุนัขหลังสีแดงอยู่ด้านหน้า
แนะนำให้เช่ารถยนต์ขับเอง เพราะจะประหยัดเวลาได้มากตอนเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะเชจู และคุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลารอรถบัส 20-30 นาที นอกจากนี้ สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งก็ไม่มีรถสาธารณะให้บริการด้วย
แนะนำให้จองรถเช่าก่อนเดินทางมาถึง เพราะถ้าต้องการรถแบบปุบปับ ก็อาจจะไม่มีรถเหลือแล้วก็ได้ และอย่าลืมคำนึงถึงขนาดกระเป๋าของคุณด้วยตอนเลือกขนาดรถ
บริษัทรถเช่าอย่าง Hertz จัดโปรโมชันเป็นครั้งคราว ดังนั้น เราแนะนำให้คุณเปรียบเทียบราคาก่อน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด
เมื่อมีตารางการท่องเที่ยวแบบนี้ คุณก็จะสามารถดื่มด่ำกับความงดงามของทัศนียภาพของเกาะเชจูที่สดใสแปลกตาได้อย่างเต็มที่ ประสบการณ์ 72 ชั่วโมงกับน้ำทะเลสีฟ้าใส คาเฟ่สวย ๆ และภูเขา จะทำให้คุณออกจากเกาะเชจูอย่างสดชื่นแจ่มใส และพร้อมสำหรับการวางแผนเที่ยวครั้งถัดไปได้
Login to ensure your favourites will be saved even
if you clear your browser's cache.