Credit: The Travel Intern
November 2022

ถ้าเลือกบินตรงไปยังลอนดอนเลย คุณก็อาจจะได้ไปเที่ยวต่ออย่างที่ฝัน แต่ทำไมต้องหยุดแค่นั้น ในเมื่อคุณสามารถทำให้ทริปในสหราชอาณาจักรครั้งนี้กลายเป็นประสบการณ์สุดคุ้มค่าได้ เริ่มจากไปเยือนเทือกเขาสูงที่สุดในเวลส์ แล้วจบด้วยการเที่ยวชมปราสาทหรูหราโอ่อ่าในเอดินบะระ มาเริ่มวางแผนการเดินทางด้วยไอเดียที่เราคัดสรรมาเพื่อคุณโดยเฉพาะจากแผนการเดินทางหนึ่งสัปดาห์สุดคุ้มในสหราชอาณาจักรต่อไปนี้!

 

*เคล็ดลับจากมือโปร: รับส่วนลดสูงสุด 10% เมื่อจองเที่ยวบิน Emirates ด้วยบัตร UOB ก่อน 30 มิถุนายน 2023

 

เที่ยวสหราชอาณาจักร

 

Photo credit: The Travel Intern

 

หากคุณจะเดินทางไปท่องเที่ยวสามเมืองตามแผนการเดินทางของเรา ขอแนะนำให้ซื้อบัตร BritRail Flexipass สำหรับสามวัน เพื่อที่คุณจะได้นั่งรถไฟของสหราชอาณาจักรได้แบบไม่จำกัด

ระบบขนส่งหลักภายในเมืองคือ London Tube สิ่งที่คล้ายกับสิงคโปร์ก็คือ คุณสามารถซื้อบัตร Oyster ในราคา 5 ปอนด์ หรือจะใช้บัตรเครดิตแตะเพื่อจ่ายค่าโดยสารก็ได้

 

วันที่ 1-3: ลอนดอน

1) ตลาดสุดฮิปในกรุงลอนดอน

 

Camden Market

Photo credit: TripAdvisor

 

เริ่มต้นทริปที่ Camden Market ซึ่งเป็นตลาดวินเทจยอดนิยมที่เปิดให้เดินเที่ยวชมได้ทุกวัน!

 

นอกเหนือจากร้านขายสินค้าราคาย่อมเยาแล้ว ตลาดแห่งนี้ยังมีซุ้มขายอาหารอีกกว่า 60 ร้าน โดยมีทุกอย่างให้เลือกสรร ตั้งแต่เบอร์เกอร์และพิซซ่า ไปจนถึงซูชิและแกงต่างๆ เราขอแนะนำแร็พสไตล์เวเนซูเอลาที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติจากร้าน Arepazo Bros หรือคุณจะเลือกลิ้มลองแม็คแอนด์ชีสสไตล์กูร์เมต์ที่อร่อยจนชวนให้รู้สึกผิดของร้าน The Mac Factory ก็ได้ไม่ว่ากัน

 

ค่าเข้า: ฟรี

เวลาเปิดบริการ: 10.00 น. – ค่ำ (ขึ้นอยู่กับร้าน)

ที่อยู่: Camden Lock Place, London NW1 8AF

 

Brick Lane Market

Photo credit: The Travel Intern

 

Brick Lane Market เป็นตลาดที่เปิดเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์เท่านั้น โดยเหมาะกับคนชอบของโบราณและของมือสองอย่างเฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า และแผ่นเสียง

 

แต่สำหรับนักกิน เราแนะนำให้มาลองเมนู Posh Pork Bap ของร้าน Pigling Street อาหารจานนี้ประกอบด้วยเนื้อลูกหมูย่างไฟอ่อนหั่นสไลด์บางๆ ราดด้วยซอสแอปเปิ้ล รับประทานคู่กับสลัดและผักดอง!!

 

ค่าเข้า: ฟรี

เวลาเปิดบริการ: 11.00-18.00 น. (เสาร์), 10.00-18.00 น. (อาทิตย์)

ที่อยู่: 91 Brick Lane, London E1 6QR

 

2) เที่ยวชมปราสาทวินเซอร์และพิพิธภัณฑ์ที่ไม่เหมือนที่ไหนๆ ของกรุงลอนดอน

 

ใช้เวลาสักหนึ่งวันดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของอังกฤษ

Photo credit: The Travel Intern

 

เดินทางไปเยี่ยมชมปราสาทเก่าแก่ที่สุดในโลกที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่พำนักของราชวงศ์ ณ ปราสาทวินเซอร์แห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของกษัตริย์และพระราชินีตั้งแต่ยุคกลางด้วยตาของตัวเองยามย่างเท้าเข้าไปยัง State Apartments และ Doll House ของสมเด็จพระราชินีนาถแมรี

 

ชมพิธีเปลี่ยนเวรยามของหน่วยทหารราชองครักษ์ในเวลา 11.00 น. ทุกวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการเที่ยวชมโบสถ์เซนต์จอร์จ ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮรีและเมแกน มาร์เคิล

 

ค่าเข้า: เริ่มต้น 26.50 ปอนด์

เวลาเปิดทำการ: 10.00-16.00 น. (1 มีนาคม – 31 ตุลาคม), 10.00-15.00 น. (1 พฤศจิกายน – 28 กุมภาพันธ์) ปิดวันอังคารและวันพุธ

ที่อยู่: Windsor Castle, Windsor, Berkshire, SL4 1NJ

 

Photo credit: The Travel Intern

 

ลำดับต่อไป มุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติหรือ Natural History Museum ซึ่งรับรองเลยว่าคุณจะอ้าปากค้างกับคอลเลกชันฟอสซิลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูกปลาวาฬสีน้ำเงินขนาดยักษ์ที่กำลัง “แหวกว่าย” ลอยเหนือศีรษะของคุณ หรือชมแบบจำลองไดโนเสาร์ซอโรพอดแบบเต็มตัวอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ คุณยังจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของโลก วิวัฒนาการของมนุษย์ และสัตว์นานาชนิด ทั้งในอดีตและปัจจุบันด้วย 

 

พิพิธภัณฑ์อื่นๆ ที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม ได้แก่ British Museum ที่จะพาคุณดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์ของอังกฤษ แต่หากคุณอยากชมคอลเลกชันผลงานศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยที่น่าตื่นตาตื่นใจ Tate Modern Museum ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน 

 

ค่าเข้า: ฟรี (สำหรับ Natural History Museum)

เวลาเปิดบริการ: 10.00-17.50 น., เปิดรับคิวสุดท้ายเวลา 17.30 น.

ที่อยู่: Cromwell Rd, South Kensington, London SW7 5BD

 

3) เที่ยวชมสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องแฮรี่ พอตเตอร์

Photo credit: Tom Kulczycki

 

ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวกแฮร์รี่ พอตเตอร์ตัวยงหรือไม่ก็ตาม  การเที่ยวชม Warner Bros. Studio เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดหากคุณมาเที่ยวลอนดอน เราแนะนำให้คุณใช้เวลาที่นี่สักสามชั่วโมง แต่ถ้าคุณเป็นสาวกภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วละก็ คุณอาจจะเผลอใช้เวลาที่นี่มากกว่านี้ถึงสองเท่า เพราะคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของโรงเรียนฮอกวอตส์ รับชมฉาก อุปกรณ์ประกอบฉาก และเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในภาพยนตร์อย่างใกล้ชิดทุกรายละเอียด ที่สำคัญ อย่าลืมลองดื่มบัตเตอร์เบียร์แสนอร่อยสักแก้วด้วย!

 

ค่าเข้า: เริ่มต้น 49.95 ปอนด์/ผู้ใหญ่ 1 ท่าน

เวลาเปิดบริการ: 10.00 น. (รอบแรก) – 18.30 น. (รอบสุดท้าย) ทัวร์รอบแรกเริ่มต้นเวลา 09.00 น. ในวันหยุดสุดสัปดาห์

ที่อยู่: Warner Bros. Studio Tour London, Studio Tour Drive, Leavesden WD25 7LR

 

4) พระราชวังบักกิงแฮม

Photo credit: Jean Carlo Emer

 

 ชมพิธีเปลี่ยนเวรยามของหน่วยทหารราชองครักษ์ที่พระราชวังบักกิงแฮมได้ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์

 

เคล็ดลับจากมือโปร: มาถึงก่อนเวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงเพื่อจองจุดที่จะมองพิธีได้ชัดเจน

 

ค่าเข้าชม: ฟรี

กำหนดเวลาของพิธีเปลี่ยนเวรยามของหน่วยทหารราชองครักษ์: 11.00 น.

ที่อยู่: Westminster, London SW1A 1AA

 

5) ชมโบสถ์สวยในลอนดอน

 

เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์

Photo credit: Ian Branch

 

หากคุณคุ้นๆ ว่าเคยเห็นโบสถ์สไตล์โกธิกแห่งนี้มาก่อน แสดงว่าคุณอาจจะเคยชมพระราชพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายวิลเลียมกับแคเธอริน มิดเดิลตัน ดยุคและดัชเชสแห่งแคมบริดจ์

 

ค่าเช้าชม: 25 ปอนด์ เมื่อซื้อทางออนไลน์ (ฟรี ถ้ามี London Pass)

เวลาเปิดบริการ: 09.30-15.30 น., วันเสาร์ ปิดเวลา 15.00 น., วันพุธเปิดให้บริการเวลา 16.30-18.00 น.

วิธีเดินทาง:  ตั้งต้นจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเวสต์มินสเตอร์ แล้วเดินมาเป็นระยะทาง 350 เมตร

 

มหาวิหารเซนต์ปอล

Photo credit: The Travel Intern

 

เคล็ดลับจากมือโปรคือ ไม่ต้องไปต่อคิวรอขึ้นลอนดอนอาย แต่ตรงไปยังมหาวิหารเซนต์ปอลแทน เพราะถึงแม้คุณจะต้องเหนื่อยหน่อยกับการเดินขึ้นไปชมวิว (เพราะต้องปีนบันไดถึง 528 ขั้น) แต่คุณจะได้พบกับจุดชมวิวที่แตกต่างกันถึง 3 จุดด้วยกัน คือตอนมองลงมาจากทางเดินภายในโบสถ์  และสองจุดชมวิวกลางแจ้งที่ระดับความสูงต่างกัน โดยคุณจะมองเห็นขอบฟ้าของลอนดอนและวิวแม่น้ำเธมส์ได้อย่างชัดเจน

 

ค่าเข้าชม: 18 ปอนด์ (ฟรี ถ้ามี London Pass)

เวลาเปิดบริการ: 08.30-16.00 น., เปิดเวลา 10.00 น. ในวันพุธ

วิธีเดินทาง: ตั้งต้นที่ตลาด Borough Market จากนั้นเดินเป็นระยะทาง 400 เมตรไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน London Bridge แล้วขึ้นรถไฟฟ้าสายเหนือไปยังสถานี Bank ก่อนจะเปลี่ยนมาขึ้นรถไฟฟ้าสายกลาง และลงที่สถานี St Paul’s เดินอีก 150 เมตรไปยังมหาวิหารเซนต์ปอล

 

กินอะไรดีในลอนดอน

ตอนเดินเที่ยวชมตลาด คุณอาจจะเห็นอาหารมากมายละลานตา แต่ต่อไปนี้คือร้านที่คุณไม่ควรพลาด

 

Brick Lane Beigel Bake

Photo credit: The Travel Intern

 

ร้านเบเกอรีแห่งนี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมงและสังเกตเห็นได้ง่ายๆ จากแถวของลูกค้าที่ยืนต่อคิวอยู่หน้าร้าน เมนูคลาสสิกของร้าน ได้แก่ เบเกิลปลาแซลมอนอบกับครีมชีส แต่ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือเบเกิลเนื้อวัวรสเค็มที่ทั้งนุ่มเต็มคำและอัดแน่นไปด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

 

ราคา: 4.30 ปอนด์

เวลาเปิดบริการ: ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่อยู่: 159 Brick Lane, London E1 6SB

 

กินสเต็กที่ Flat Iron

Photo credit: The Travel Intern

 

เนื้อสเต็กของร้านนี้ไม่เพียงราคาสบายกระเป๋าและชิ้นใหญ่จุใจ แต่ยังนุ่มอร่อยจนใครๆ ก็ต้องร้องว้าว 

 

ร้านนี้ไม่รับจองโต๊ะ ดังนั้นคุณอาจต้องรอคิวนานถึงสองชั่วโมง แต่ไม่ต้องห่วง เพราะคุณสามารถทิ้งเบอร์โทรไว้ แล้วให้พนักร้านส่งข้อความมาเตือนเมื่อโต๊ะว่าง

 

นอกจากอาหารแสนอร่อยแล้ว ร้านนี้ยังเสิร์ฟป๊อปคอร์นและไอศกรีมฟรี เพียงเอ่ยปากขอกับพนักงานเสิร์ฟหลังจากรับประทานอาหารมื้อหลักเสร็จ 

 

ราคา: 12 ปอนด์ขึ้นไป ต่อสเต็ก 1 ชิ้น

เวลาเปิดบริการ: 12.00-24.00 น., ปิด 23.30 น. วันอาทิตย์ 

ที่อยู่: 17-18 Henrietta St, London WC2E 8QH

 

Dishoom

Photo credit: Dishoom

 

อาจจะฟังดูแปลกไปสักหน่อย แต่ถ้าคุณถามคนในพื้นที่ว่าอาหารร้านไหนอร่อย คำตอบที่คุณจะได้ยินบ่อยๆ ก็คืออาหารอินเดียของร้าน Dishoom ส่วนเมนูที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ House Black Daal, Mattar Paneer และ Spicy Lamb Chops

 

ราคา: อาหารประเภทปิ้งย่างเริ่มต้นที่ 6.90 ปอนด์ 

เวลาเปิดบริการ: 08.00-23.00 น. ปิด 24.00 น. ในวันศุกร์และวันเสาร์

ที่อยู่: 12 Upper St Martin's Ln, London WC2H 9FB

 

วันที่ 4: เวลส์

Photo credit: The Travel Intern

 

หลีกเร้นจากเมืองใหญ่แสนวุ่นวายสู่เทือกเขาในเวลส์ ถ้าคุณอยากจะดื่มด่ำกับธรรมชาติให้เต็มอิ่ม การได้ใช้เวลาหนึ่งวันเต็มๆ ที่ภูเขา Snowdon อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหา

 

ระหว่างเดินขึ้นยอดเขาที่สูงที่สุดในเวลส์แห่งนี้ คุณจะได้พบกับน้ำตก ทะเลสาบกว้างใหญ่ และฝูงแกะแสนน่ารัก คุณอาจต้องเผื่อเวลาไว้หกถึงแปดชั่วโมงในการเดินขึ้นไปบนยอดเขา Snowdon แต่ถ้าอยากจะประหยัดเวลาลงเหลือสองชั่วโมงแล้วละก็ ให้เลือกโดยสาร Snowdon Mountain Railway แทน (เปิดให้บริการตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมถึงตุลาคม) 

 

Photo credit: The Travel Intern

 

เราแนะนำให้คุณนั่งรถไฟขึ้นไปยัง Clowgyn (ระยะทาง ¾ ของยอดเขา) จากนั้นค่อยเดินลงมา คุณจะได้เห็นวิวสวยๆ ของสันเขาและหุบเขาตรงจุดชมวิวแห่งนี้ แถมยังได้ออกกำลังกายอีกเล็กน้อยต่อจากนั้น การเดินลงเขาใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงครึ่ง แต่ต้องใช้ความระมัดระวังด้วยเพราะสภาพภูมิประเทศเต็มไปด้วยโขดหินและบางครั้งก็ชัน

 

ค่าใช้จ่าย: 29 ปอนด์/ผู้ใหญ่ 1 ท่าน, ตั๋วโดยสาร Llanberis – Clogwyn มีส่วนลดเมื่อจองล่วงหน้า

เวลาเปิดบริการ: 08.30 น. (รถไฟเที่ยวแรกออกเวลา 09.00 น.) เวลาปิดให้บริการแตกต่างกันไป (โปรดโทร +44(0)1286 870223 เพื่อยืนยันเวลา)

วิธีเดินทาง: ตั้งต้นจากสถานีรถประจำทาง Turf Square จากนั้นนั่งรถประจำทางสาย S2 เป็นเวลา 30 นาที และลงที่สถานีรถไฟ  Snowdon สามารถซื้อตั๋วรถประจำทางจากคนขับโดยตรงในราคา 1.80 ปอนด์

 

กินอะไรดีในเวลส์

 

Platform Grill ที่สถานีรถไฟ Snowdon Mountain

Photo credit: TripAdvisor

 

Platform Grill เป็นร้านอาหารสุดชิลล์ เหมาะกับการแวะเติมพลังงานหลังเหน็ดเหนื่อยจากการปีนเขา ร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Snowdon Mountain เมนูที่มีให้บริการมีทั้งแฮมเบอร์เกอร์ Quarter Pounders และ Jumbo Hotdogs ซึ่งคุณเลือกได้ว่าจะเอามันฝรั่งทอดด้วยหรือไม่!

 

ฟิชแอนด์ชิปสไตล์ดั้งเดิมของร้าน Ainsworth’s

Photo credit: The Travel Intern

 

Ainsworth’s เปิดขายเมนูฟิชแอนด์ชิป เสิร์ฟพร้อมซอสจิ้มเข้มข้นที่ทำจากถั่ว ซึ่งเข้ากันได้ดีกับทั้งเมนูปลาและมันฝรั่งทอด

 

เวลาเปิดบริการ: 11.45-21.00 น., ปิดเวลา 22.00 น. ทุกวันศุกร์และวันหยุดสุดสัปดาห์

ที่อยู่:  41 Bridge Street Turf Square, Caernarfon LL55 1AF

 

วันที่ 5-7: เอดินบะระ

 

1) ปราสาทเอดินบะระ

Photo credit: The Times

 

ถ้าจะให้บอกว่าอะไรเจ๋งสุดเกี่ยวกับปราสาทเอดินบะระ คุณคงตอบยากหน่อย เพราะปราสาทของราชวงศ์แห่งนี้มีทั้งประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน แถมยังตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว

 

ที่นี่ คุณจะอัศจรรย์ใจกับสถาปัตยกรรมของปราสาทที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พำนักของบรรดาราชวงศ์ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับด้านมืดของที่นี่ด้วย เพราะคุกใต้ดินเคยเป็นสถานที่คุมขังนักโทษสงครามในคริสต์ศตวรรษที่ 18!

 

ค่าเข้าชม: 18 ปอนด์

เวลาเปิดบริการ: 9.30-18.00 น. คิวสุดท้ายเวลา 17.00 น. (1 เมษายน ถึง 30 กันยายน) 09.30-17.00 น. คิวสุดท้ายเวลา 16.00 น. (1 ตุลาคม ถึง 30 มีนาคม)

วิธีเดินทาง: จากสถานี Edinburgh Waverley เดินมาเป็นระยะทาง 600 เมตร

 

 

2) Calton Hill

Photo credit: Wikimedia Commons

 

Calton Hill เป็นหนึ่งในย่านที่โดดเด่นที่สุดของเมืองเอดินบะระตอนกลางและได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมอนุสาวรีย์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยหนึ่งในนั้นคืออนุสาวรีย์แห่งชาติที่ได้แรงบันดาลใจมาจากป้อมปราการอะโครโพลิสแห่งเอเธนส์ แต่ปัจจุบันยังสร้างไม่เสร็จเนื่องจากเงินทุนไม่เพียงพอ

 

ค่าเข้าชม: ฟรี

เวลาเปิดบริการ:

วิธีเดินทาง: เริ่มต้นจากประตูทางเข้า Regent Gardens แล้วเดินมา 480 เมตร

 

3) ทริปเที่ยวตอนในเซนต์แอนดรูส์

 

ปราสาทเซนต์แอนดรูส์

Photo credit: About St Andrews

 

ปัจจุบัน ปราสาทริมทะเลหลังนี้อาจจะกลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว ทว่ากลับซ่อนสิ่งที่น่าสนใจเอาไว้มากมาย เพราะสิ่งที่คุณมองไม่เห็นบนพื้นดิน ถูกชดเชยด้วยทางเดินใต้ดินที่มีเรื่องราวให้สำรวจไม่รู้จบ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในยุคปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์ในยุค 1500

 

มหาวิหารเซนต์แอนดรูส์

Photo credit: Wikimedia Commons

 

จากปราสาทเซนต์แอนดรูส์ เดินเท้ามาแค่ 350 เมตรก็จะถึงมหาวิหารเซนต์แอนดรูส์ ซึ่งเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเอดินบะระ ที่นี่เคยเป็นหนึ่งในโบสถ์ขนาดใหญ่ที่สุดของสกอตแลนด์ โดยปัจจุบันเปิดเป็นพิพิภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงสิ่งประดิษฐ์จากยุคกลาง นอกจากนี้ เมื่อเข้ามาภายในมหาวิหาร คุณยังจะได้พบกับหอคอยเซนต์รูลส์ที่มีความสูงถึง 33 เมตร และมองเห็นทิวทัศน์ตระการตาของเมืองได้รอบด้าน

 

ปราสาทและมหาวิหารเซนต์แอนด์ดรูส์

ค่าเข้าชม: 12 ปอนด์

เวลาเปิดบริการ: 10.00-17.00 น. (1 เมษายน ถึง 30 กันยายน), 10.00-16.00 น. (1 ตุลาคม ถึง 31 มีนาคม), เปิดรับคิวสุดท้าย 30 นาทีก่อนถึงเวลาปิด

วิธีเดินทาง: ตั้งต้นจากสถานีรถประจำทางเซนต์แอนดรูส์ แล้วเดินเป็นระยะทาง 1 กม.

 

พิพิธภัณฑ์เซนต์แอนดรูส์

Photo credit: The Travel Intern

 

ปิดท้ายทริปเที่ยวเซนต์แอนดรูส์ที่คฤหาสน์สไตล์วิคตอเรียน (ที่ดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์) และเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองเซนต์แอนดรูส์ ที่นี่ คุณจะได้เรียนรู้ว่าเมืองเซนต์แอนดรูส์กลายมาเป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัยและกีฬากอล์ฟได้ยังไง จากนั้นปิดท้ายวันด้วยการจิบชาและกินเค้กแสนอร่อยที่คาเฟ่ภายในพิพิธภัณฑ์ แล้วค่อยเดินทางกลับ

 

ค่าเข้าชม: ฟรี

เวลาเปิดบริการ: 10.30-16.00 น., ปิดวันอาทิตย์

วิธีเดินทาง: เดินเป็นระยะทาง 1.2 กม. จากมหาวิหารเซนต์แอนดรูส์ 

 

กินอะไรดีที่เอดินบะระ

 

Papii Cafe

Photo credit: Papii Cafe

 

Papii Cafe คือร้านขายอาหารเช้าและอาหารมื้อสายยอดนิยม เมนูขึ้นชื่อของที่นี่คือวาฟเฟิลวานิลลาบัตเตอร์มิลค์นุ่มฟูชิ้นใหญ่ เสิร์ฟกับเบคอน ราดเมเปิลไซรัป ตามด้วยสตรอเบอร์รีและครีมเป็นท็อปปิ้ง

 

ราคา: 5.68 ปอนด์

เวลาเปิดบริการ: 09.00-17.00 น., ปิดวันจันทร์

ที่อยู่: 101 Hanover St, Edinburgh EH2 1DJ

 

Oink Hog Roast 

Photo credit: @oink_hogroast via Instagram

 

ห้ามพลาดแซนด์วิชหมูเส้นที่ทำจากหมูย่างสไตล์สกอตแลนด์ และลองชิมแฮกกิสแบบดั้งเดิม (ไส้กรอกทำจากปอด หัวใจ และตับแกะ) ที่เสิร์ฟมากับซอสมายองเนสมัสตาร์ดโฮมเมดเพื่อเพิ่มรสชาติ!

 

เวลาเปิดบริการ: 11.00-17.00 น.

ที่อยู่: 34 Victoria Street, Grassmarket, Edinburgh EH1 2JW

 

เที่ยวลอนดอนให้คุ้มที่สุดด้วยบัตร UOB

Photo credit: Marcin Nowak

 

ในที่สุดก็ถึงเวลาแพ็กกระเป๋าไปเที่ยวลอนดอนอย่างที่คุณรอคอยมานาน พร้อมทั้งสำรวจสถานที่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะประหยัดได้อย่างมากตอนวางแผนการเดินทาง หากคุณเป็นสมาชิกบัตร UOB

 

ลูกค้าสมาชิกบัตรเครดิต UOB สามารถเพลิดเพลินกับดีลมากมายบน Travel Insider ตั้งแต่ส่วนลดตั๋วเครื่องจาก Trip.com รวมถึงส่วนลดบนห้องพักกับ Agoda, Booking.com และ UOB Travel. คลิกเลย เพื่อค้นหาดีลเพิ่มเติมและเริ่มต้นวางแผนวันหยุดของคุณไปกับบัตร UOB

 

หากยังไม่มีบัตร UOB มองหาบัตรเครดิตสำหรับไลฟ์สไตล์ทุกแบบของคุณได้ที่นี่

 

     SHARE
บ้าน ไฮไลท์ แบบทดสอบการเดินทาง ปลายทาง แรงบันดาลใจในการเดินทาง ข้อเสนอ จองตอนนี้ วางแผน เกี่ยวกับ
Select country :
Language :