Credit: Destination New South Wales
December 2019

วันที่ 1 ซิดนีย์


เครดิตรูปภาพ: BridgeClimb

 

เริ่มต้นการผจญภัยในซิดนีย์ด้วยการเดินข้ามแลนด์มาร์กที่โด่งดังที่สุดอย่างสะพาน Harbour Bridge บนสะพานมีรั้วกั้นทางเดินเท้าไปตลอดแนวถนน ซึ่งมองเห็นวิวสวย ๆ ของท่าเรือและ Opera House ปิดท้ายวันด้วยการลงไปว่ายน้ำใน North Sydney Pool หรือไปเล่นเครื่องเล่นที่ Luna Park หากต้องการไต่สะพานสูงแบบผูกเชือกนิรภัย พร้อมกับทำสถิติเวลาไปด้วย ลองใช้บริการของ BridgeClimb Sampler ซึ่งคุณจะได้ขึ้นไต่โครงสร้างสะพานด้านในภายในเวลา 1.5 ชั่วโมง และชมทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจจากความสูงครึ่งหนึ่งของสะพานเลยทีเดียว 

 


เครดิตรูปภาพ: Let's Go Surfing

ช่วงบ่ายอย่าลืมตรงไปชายหาด Bondi Beach ที่นี่คุณจะเห็นนักโต้คลื่นจำนวนมาก โดยหาด Bondi ถือเป็นชายหาดที่โด่งดังที่สุดของซิดนีย์  คุณสามารถลงทะเบียนเรียนโต้คลื่นแบบส่วนตัวกับ  Lets Go Surfing ได้ในหนึ่งชั่วโมง ซึ่งพวกเขาจะสอนคุณยืนบนกระดานโต้คลื่นจนเหมือนมืออาชีพเลย จากนั้นปิดท้ายด้วยการรับประทานฟิชแอนด์ชิป The Bucket List พลางชมหาดทรายสวย ๆ คู่กัน

 


เครดิตรูปภาพ: Taronga Zoo

 

หลายคนไม่เคยทราบมาก่อนว่าจริง ๆ แล้วเราสามารถพักค้างคืนที่สวนสัตว์ Taronga Zoo Sydney ในเต็นท์สไตล์ซาฟารี แล้วอร่อยกับอาหารกูร์เมต์ใต้แสงดาว พร้อมกับสัมผัสประสบการณ์การอยู่ร่วมกับสัตว์ป่าต่างถิ่นและสัตว์ประจำถิ่นได้อย่างใกล้ชิด แผนการเดินทางแบบ Roar and Snore ประกอบด้วยการเดิมชมสวนสัตว์ Taronga Zoo ในยามพระอาทิตย์ตกตอนที่ปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าแล้ว รับประทานคานาเป้ เครื่องดื่ม ดินเนอร์แบบบุฟเฟต์ และชมสัตว์ตอนกลางคืน 

 

วันที่ 2


เครดิตรูปภาพ: Glenworth Valley Outdoor Adventures

 

จากซิดนีย์ คุณสามารถเลือกการผจญภัยในแบบที่คุณชอบ ซึ่งแหล่งรวมกิจกรรมกลางแจ้งและการขี่ม้าที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียคือที่เกล็นวอร์ธวัลเลย์ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นป่ากว้างราว ๆ 1,200 เฮกตาร์ และอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือประมาณ 40 นาที จากนั้นไปชมสัตว์ป่าท้องถิ่นที่ Australia Walkabout Wildlife Park และ Australian Reptile Park

 


เครดิตรูปภาพ: TreeTops

 

ใครที่ชอบความตื่นเต้น ลองไปโหนสลิงโรลเลอร์โคสเตอร์ TreeTop Crazy Rider ที่ยาวที่สุดในโลกได้ที่ TreeTop Adventures ในป่า Ourimbah State Fores กันดู สลิงยาว 1 กิโลเมตรนี้ตัดผ่านเข้าไปในป่าผ่านต้นไม้ และโค้งหมุน 360 องศาอีก 4 โค้ง โค้งหมุน 540 องศาอีก 1 โค้ง และการเปลี่ยนระดับความสูงที่ชวนให้หวาดเสียวอีกสองจุด

 

วันที่ 3


เครดิตรูปภาพ: Destination NSW

 

เดินทางไปยังชายฝั่งทะเล และอย่าพลาดโอกาสไปให้อาหารนกกระทุงอันโด่งดังที่ The Entrance กิจกรรมให้อาหารนกกระทุงจะเกิดขึ้นบริเวณริมน้ำของ The Entrance ในเวลา 15.30 น. ทุกวัน และเป็นหนึ่งในบริเวณที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในเซ็นทรัลโคสต์ ซึ่งให้ทั้งความบันเทิงและความรู้เกี่ยวกับฝูงนกกระทุงของบริเวณนี้แก่นักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่น

 


เครดิตรูปภาพ: The Legendary Pacific Coast

 

ห่างจาก The Entrace ไปแค่ 1 ชั่วโมงโดยประมาณก็จะถึงทะเลสาบ Lake Macquarie ในเซ็นทรัลโคสต์ นิวเซาธ์เวลส์  หาดทรายสีทองและน้ำใสราวกระจกของทะเลสาบ  Lake Macquarie เป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของนิวเซาธ์เวลส์เลยทีเดียว ส่วน Caves Beach ก็มีทั้งถ้ำและสระหินน่าตื่นตาตื่นใจชวนให้ไปสำรวจ ตอนกลางวัน คุณสามารถเช่าเรือทินนีไปสำรวจบริเวณปากน้ำ เกาะแก่ง และบริเวณอ่าวริมทะเลสาบที่เงียบสงบได้

 

วันที่ 4


เครดิตรูปภาพ: Hunter Valley Gardens

 

จากชายฝั่ง ต่อไปเราจะมุ่งหน้าไปยังดินแดนแห่งไวน์กัน ฮันเตอร์วัลเลย์อยู่ห่างจากทะเลสาบ Lake Macquarie ไปแค่สองชั่วโมงโดยการขับรถ และเป็นหนึ่งในเมืองปลูกองุ่นทำไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดของออสเตรเลีย และขึ้นชื่อเรื่ององุ่นสายพันธ์ชีราซและเซมิยอน คุณสามารถเดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศสวย ๆ ของ Hunter Valley Gardens บนทางเดินระยะทาง 8 กิโลเมตร ผ่านต้นไม้ขนาดยักษ์ ไม้พุ่ม ทุ่งดอกไม้ สวนสนุกสำหรับเด็ก น้ำตก งานประติมากรรม และอื่น ๆ อีกมากมาย

 


เครดิตรูปภาพ: Balloon Aloft

 

ไปเยือน Audrey Wilkinson ซึ่งเป็นหนึ่งในไร่องุ่นที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ แล้วนั่งปิกนิกท่ามกลางไร่องุ่น ทัวร์ห้องใต้ดิน หรือพักในบ้านพักแขกในไร่องุ่นที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน และอย่าพลาดชมทัศนียภาพของฮันเตอร์วัลเลย์จากมุมมองขณะนั่งอยู่ในบอลลูนลมร้อนเด็ดขาด Balloon Aloft ให้บริการนั่งบอลลูนชมพระอาทิตย์ขึ้น 1 ชั่วโมง พร้อมเสิร์ฟอาหารเช้าและแชมเปญมากว่า 35 ปีแล้ว และสำหรับเด็ก ๆ ให้ปิดท้ายวันด้วยของหวานแสนอร่อยที่ Sabor Dessert Bar, Cocoa Nib และ  Cupcake Espresso

 

วันที่ 5


เครดิตรูปภาพ: จุดหมายต่อไปนิวเซาธ์เวลส์

 

พอร์ตสตีเฟนส์อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 1.5 ชั่วโมงหากเดินทางด้วยรถยนต์ ที่นี่มีชายหาดสีทองถึง 26 แห่ง ทั้งยังมีอ่าวสีน้ำเงินขนาดใหญ่ และบริเวณปากน้ำงดงามจับตาอีกหลายแห่ง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่ต้องการมาเที่ยวชายหาดแบบสบาย ๆ รับประทานอาหารทะเลสดใหม่ และผจญภัยกลางแจ้งอย่างการขี่รถควอต

 

วันที่ 6


เครดิตรูปภาพ: จุดหมายต่อไปนิวเซาธ์เวลส์

 

ใช้เวลาทั้งวันออกไปผจญภัยในแบบที่ไม่มีใครเหมือนบนเนินทราย Stockton Bight Sand Dunes ใน Worimi Conservation Lands ที่ Anna Bay เนินทรายแห่งนี้งดงามจับตาและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ที่นี่คือเนินทรายริมชายฝั่งซีกโลกใต้ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่หลายพันปีที่แล้ว 

 


เครดิตรูปภาพ: Destination NSW, Hugh Stewart

 

เนินทรายอาจจะก่อตัวสูงตระหง่านถึง 40 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเนินที่สูงชันแบบนี้เหมาะกับการเล่นแซนด์บอร์ดมาก แถมยังเล่นได้ตลอดทั้งปีด้วย คุณสามารถนั่งแซนด์บอร์ดลงมาจากเนินทรายขนาดยักษ์ ขับรถ Hummer ขับเคลื่อน 4 ล้อท่องชมทัศนียภาพงดงาม หรือจะขี่รถควอต 400 ซีซีก็ยังได้ และหากอยากได้ประสบการณ์แปลก ๆ การขี่อูฐไปตามหาดทรายนุ่ม ๆ ก็ดีไม่แพ้กัน

 


เครดิตรูปภาพ: Irukandji Shark and Ray Encounters

 

ตอนบ่าย แวะไปที่  Irukandji Shark and Ray Encounters ในพอร์ตสตีเฟนส์ แล้วเข้าร่วมไกด์ทัวร์ชมอะควาเรียมแบบอินเทอร์แอคทีฟ ซึ่งทั้งครอบครัวจะได้ตื่นตาตื่นใจกับฉลามและปลากระเบนมากมาย แถมยังลูบหรือให้อาหารมันได้ด้วย

 


คุณอาจสนใจ

     SHARE
บ้าน ไฮไลท์ แบบทดสอบการเดินทาง ปลายทาง แรงบันดาลใจในการเดินทาง ข้อเสนอ จองตอนนี้ วางแผน เกี่ยวกับ
Select country :
Language :