Credit: The Travel Intern
December 2019

ออสเตรเลียไม่เคยติดท็อป 3 ของประเทศที่ฉันอยากไปเที่ยวเลยค่ะ แต่ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันได้ไปเที่ยวที่นั่น และมันทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับออสเตรเลียไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐแทสมาเนีย
กล่าวกันว่าทริปขับรถเที่ยวเป็นวิธีที่สะดวกสบายที่สุดในการเที่ยวชมสถานที่สวย ๆ หลาย ๆ แห่ง ซึ่งเป็นเรื่องจริงอย่างที่สุดค่ะ ต่อไปนี้คือแผนการขับรถเที่ยวด้วยตัวเอง 5 วัน 4 คืน ซึ่งครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงหลายแห่งของแทสมาเนียอย่างเช่น Coles Bay และ Cataract Gorge ตลอดจนเมืองน่ารัก ๆ ที่หลายคนอาจจะหลงลืมไป รวมถึงเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเยือน และแหล่งท่องเที่ยวที่คนไม่พลุกพล่าน ซึ่งจะช่วยให้ทริปของคุณเป็นการพักผ่อนอย่างแท้จริง


แทสมาเนีย

แทสมาเนียขึ้นชื่อเรื่องพื้นที่ป่าที่กว้างใหญ่รกร้าง รวมทั้งความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ป่าที่พบเห็นได้บนเกาะเท่านั้น 


สิ่งจำเป็นในการเดินทาง

สกุลเงิน: ดอลลาร์ออสเตรเลีย ในแทสมาเนีย ตู้เอทีเอ็มหาไม่ยากก็จริง แต่คุณก็ควรพกเงินสดติดตัวไว้ให้เพียงพอด้วยตอนขับรถเที่ยว เพราะสถาเติมน้ำมันและร้านค้าสะดวกซื้อขนาดเล็กจะไม่รับบัตรเครดิต

ซิมการ์ด: จำไว้ว่าสนามบิน Hobart Airport ในแทสมาเนียไม่มีร้านค้าของผู้ประกอบการโทรคมนาคมเลบ ดังนั้น คุณจะต้องซื้อซิมการ์ดเตรียมไว้ให้พร้อมตั้งแต่ตอนอยู่บนแผ่นดินใหญ่ก่อนจะเดินทางมาแทสมาเนีย ซึ่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตบนมือถือของ Optus ค่อนข้างแรงทีเดียวในแทสมาเนีย


การเช่ารถยนต์: มีรถเช่าให้บริการหลายเจ้า แต่ฉันแนะนำBudget เพราะคุณสามารถจองรถและจ่ายเงินออนไลน์ก่อนเดินทาง แล้วสามารถมารับกุญแจรถได้ที่สนามบิน Hobart Airport เลยเมื่อเดินทางมาถึง โดยรถที่คุณเช่าจะจอดอยู่บริเวณลานจอดรถกลางแจ้ง ถัดจากชานชาลาของสนามบิน ซึ่งเดินไปได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันสำหรับบัตร UOB จนถึงเดือนกรกฎาคม 2018 ด้วย ซึ่งคุณจะได้รับส่วนลด 10% สำหรับการเช่ารถยนต์ เมื่อจ่ายด้วยบัตรเครดิต UOB และโปรโมชันนี้นี้ยังใช้ได้กับการเช่ารถของ Budget ทั่วโลกเลย


ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเที่ยว: ในฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนธันวาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์


วันที่ 1: ถึงโฮบาร์ต – Salamanca Market – Willie Smith’s Apple Shed – MONA

ในแผนการเดินทางครั้งนี้ เราจะเดินทางมายังสนามบิน Hobart Airport แต่นั่งเครื่องมาจาก Launceston Airport เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางกลับมายัง Hobart Airport อีกครั้ง โดยเราสามารถนำเวลาส่วนนี้ไปเที่ยวแทสมาเนียเพิ่มได้


*เคล็ดลับจากมือโปร: รับรถจาก Budget ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Avis และให้บริการรถเช่าราคาถูก Avis กับ Budget ดูเหมือนจะใช้รถกลุ่มเดียวกัน ดังนั้นคุณจะประหยัดกว่า แต่ได้รถที่มีสมรรถนะดีมาใช้งาน อย่าลืมเช็คด้วยว่าเป็นช่วงปิดเทอมหรือไม่ เพราะในช่วงนั้นราคาเช่ารถจะแพงกว่าปกติมาก 

Salamanca Market

พยายามจัดทริปให้ตรงกับเสาร์ด้วย เพราะคุณคงไม่อยากพลาด Salamanca Market แน่ Salamanca Market เป็นตลาดบนถนนในเมืองโฮบาร์ต ซึ่งได้รับความสนใจทั้งจากคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว โดยมีร้านค้าเกือบ 300 ร้านมารวมตัวกันและขายของทุกอย่างเท่าที่คุณจะนึกออก


ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับทำมือ งานไม้ ผลไม้สด เนื้อบ่ม แผ่นเสียงวินเทจ ไปจนถึงเครื่องครัวใหม่ ๆ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้บ่งบอกถึงวัฒนธรรมและอัตลักษณะของแทสมาเนียได้เป็นอย่างดี 

*เคล็ดลับจากมือโปร: ที่น่าแปลกใจก็คือ คุณสามารถต่อรองราคากับคนขายได้ด้วย ดังนั้น ก่อนจะจ่ายเงินลองต่อราคาดูนะคะ

ที่อยู่: Salamanca Pl, Hobart TAS 7001, Australia

เวลาเปิดทำการ: 8:30-15.00 น., เปิดวันเสาร์เท่านั้น


Willie Smith's Apple Shed

Willie Smith’s Apple Shed ไม่ได้เป็นแค่ไร่แอปเปิ้ล แต่เป็นโรงงานผลิตไซเดอร์ โรงกลั่นเหล้า และพิพิธภัณฑ์ด้วย สวนแอปเปิ้ล Willie Smith’s อยู่ห่างจากเมืองโฮบาร์ตมาทางตะวันตกเพียง 25 นาที เหมาะมากสำหรับใครที่อยากเดินทางมารับประทานอาหารกลางวันเพื่อสุขภาพและหาความรู้
คุณสามารถลองไซเดอร์แอปเปิ้ลหลากหลายชนิดของที่นี่ในกิจกรรมทดลองชิมไซเดอร์ (12 ดอลลาณ์)


*เคล็ดลับจากมือโปร: ถ้าคุณมาเที่ยว Willie Smith’s Apple Shed ในวันศุกร์ แนะนำให้อยู่จนถึงตอนเย็น เพื่อชมงานแสดงดนตรีประจำสัปดาห์ของนักดนตรีในท้องถิ่น

ที่อยู่: 2064 Huon Hwy, Grove TAS 7109, Australia
*เคล็ดลับจากมือโปร: 10.00 – 17.00 น. (จันทร์ – พฤหัสบดี), 10.00 – 21.00 น. (ศุกร์), 10.00 – 18.00 น. (เสาร์ – อาทิตย์)


MONA (Museum of Old and New Art)

MONA ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำ Derwent จะเดินทางไปด้วยรถยนต์หรือใช้บริการเรือข้ามฟากจากท่าเรือ Brooke Street Pier ก็ได้ 
นิทรรศการทั่วไปที่จัดขึ้นที่ MONA เรียกว่า ‘MONANISM’ ซึ่งเป็นการแสดงผลงานคัดสรรทั้งเก่าและใหม่ผสมผสานกัน นอกจากนี้ ที่นี่ยังกำลังจัดนิทรรศการชั่วคราวที่น่าสนใจเป็นครั้งคราวไป และบางครั้งก็จะร่วมมือกับศิลปินหรือองค์กรในต่างประเทศด้วย ดังนั้น ถ้าคุณชอบศิลปะ ก็ลองไปเที่ยวที่นี่ดูนะคะ


ถ้าคุณไม่เข้าใจหรือไม่ได้ชื่นชอบศิลปะสักเท่าไหร่ MONA ก็ยังคุ้มค่าต่อการไปเยือนนะคะถ้าคุณมาโฮบาร์ต โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตก เพราะคุณจะได้เห็นภาพของท้องฟ้าริมแม่น้ำ Derwent กลายเป็นสีชมพูน่าตื่นตาตื่นใจเชียวค่ะ

หลายคนคิดว่านิทรรศการของแปลกประหลาด แต่คงไม่แปลกเท่าโปรแกรมสมัครสมาชิกของ MONA หรอกค่ะ เพราะถ้าคุณเป็น “สมาชิกตลอดชีพ” ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คุณไม่เพียงเข้าพิพิธภัณฑ์ได้ฟรีตลอดชีวิต แต่ยังสามารถนำศพมาเผา แล้วเก็บอัฐิไว้ในสุสาน MONA ได้อีกด้วย


ที่อยู่: 655 Main Rd, Berriedale TAS 7011, Australia
เวลาเปิดทำการ: 10.00 - 17.00 น. (ปิดวันอังคาร)^
Admission Fee: 25-28 ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ผู้ใหญ่ 1 คน^

^สามารถเข้าไปดูราคาและชั่วโมงเปิดทำการของแต่ละฤดูกาลได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ MONAได้


*เคล็ดลับจากมือโปร: เข้าฟรีก่อนเวลาปิด เหมาะกับคนที่แค่อยากไปดูว่าที่นี่มีอะไรบ้าง

ควรพักที่ไหน: Airbnb ในโฮบาร์ต

 


วันที่ 2: ขับรถไปเฟรซิเน็ตผ่านริชมอนด์ทาวน์  – Kate’s Berry Farm – Freycinet National Park

หลังจากใช้เวลาในโฮเบิร์ตจนคุ้มค่าแล้ว ก็ถึงเวลาไปผจญภัยกันต่อ โดยมุ่งหน้าไปยัง Freyninet Peninsular เยี่ยมชมเมืองริชมอนด์ทาวน์อันเงียบสงบ


ริชมอนด์ทาวน์

ริชมอนด์ทาวน์เป็นเมืองเก่าที่มีบรรยากาศเงียบสงบจนดูเหมือนจะถูกลืมไปตามกาลเวลา สองข้างถนนเรียงรายไปด้วยตึกสถาปัตยกรรมจอร์เจียนที่ได้รับการบูรณะตกแต่งให้เป็นคาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก และแกลเลอรี่ เจ้าของร้านในเมืองนี้เป็นมิตรมากและชอบบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์ของเมืองริชมอนด์และแทสมาเนียกับนักท่องเที่ยว

แลนด์มาร์กที่สำคัญที่สุดในเมืองริชมอนด์คือ Richmond Bridge ซึ่งเป็นสะพานหินขนาดใหญ่ที่เก่าแก่ที่สุดในออสเตรเลีย คุณสามารถเดินทางมาชมบรรยากาศเงียบสงบของเมืองเก่าแห่งนี้ และปิกนิกในสวน พลางชมสะพาน Richmond Bridge

ที่อยู่: Bridge St, Richmond TAS 7025, Australia


Kate’s Berry Farm

หลังจากดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์ของแทสมาเนียมาทั้งบ่ายแล้ว เราเดินทางต่อมาที่ Kate’s Berry Farm และรับประทานอาหารกลางวันแสนอร่อยในร้าน Just Desserts Café ที่มองเห็นวิวไร่เบอร์รี นอกจากนี้ คุณยังสามารถชิมแยมเบอร์รีที่ผลิตจากเบอร์รีของไร่นี้ด้วย 


*เคล็ดลับจากมือโปร: แยมผลไม้ที่ทางร้านทำมาจากผลไม้ของไร่ตัวเองเหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝาก!
ที่อยู่: 12 Addison St, Swansea TAS 7190, Australia
เวลาเปิดทำการ: 9.30 ถึง 16.30 น. ทุกวัน (ปิดในฤดูหนาว)


Freycinet National Park

การขับรถไปยัง Freycinet National Park ใช้เวลานานก็จริง แต่ระหว่างทางคุณจะเจอกับวิวที่สวยจนสะกดสายตา 

และเมื่อมาถึง Freycinet National Park คุณจะเห็นภูเขาหินแกรนิตสีชมพูยิ่งใหญ่ตระการตา เรียกกันว่า Hazards รวมทั้งหาดทรายเงียบสงบ และ Wineglass Bay ที่ไม่มีที่ไหนเหมือน 

พอเข้ามาในอุทยานแห่งชาติแล้ว ให้ซื้อ Park Pass จากบูทออกตั๋วแบบบริการตัวเอง ตั๋วจะใช้ได้ 24 ชั่วโมง และคุณสามารถจอดรถได้ฟรีบริเวณจุดจอดที่ได้รับอนุญาตภายในอุทยาน 

ค่าบัตรเข้าอุทยาน: 12 ดอลลาร์ออสเตรเลีย/คน หรือ 24 ดอลลาร์ออสเตรเลีย/คัน บัตรเข้าอุทยานจะใช้ได้ 24 ชั่วโมง

คุณสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดจากใน Freycinet National Park ได้ด้วย 
พระอาทิตย์ตกเป็นสัญญาณว่าถึงเวลากินข้าวเย็นแล้ว ลองแวะไปที่ Tombolo Freycinet ซึ่งอาจจะเป็นร้านพิซซ่าที่เสิร์ฟอาหารและกาแฟที่อร่อยที่สุดใน Coles Bay เลยทีเดียว 


ที่อยู่: 6 Garnet Ave, Coles Bay TAS 7215, Australia
เวลาเปิดทำการ: 9.00 – 20.00 (อังคาร – เสาร์), 9.00 ถึง 16.00 (ศุกร์) ปิดวันจันทร์
ควรพักที่ไหน: Airbnb ในเฟรซิเน็ต


วันที่ 3: Wineglass Bay และ Freycinet National Park

คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการตื่นเช้ามาเดินป่าในอุทยานแห่งชาติที่สวยที่สุดในออสเตรเลียอีกแล้ว เพราะคุณจะได้สูดอาหารบริสุทธิ์ระหว่างเดินป่าบนเส้นทางง่าย ๆ ระยะทางเพียง 3 กิโลเมตร เพื่อไปยังจุดชมวิวของ Wineglass Bay 

และถ้าคุณโชคดี คุณอาจจะเจอตัววัลลาบีระหว่างทางก็ได้ ทางเดินง่าย ๆ เส้นนี้ใช้เวลาสองชั่วโมงถ้าเดินทอดน่องไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าคุณเป็นคนเดินเร็ว ก็ใช้เวลาเพียงชั่วโมงเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้คุณเดินช้า ๆ จะได้ชมวิวสวย ๆ ระหว่างทาง

หากคุณรู้สึกว่าอยากทำอะไรที่มันตื่นเต้นมากกว่านี้ (และมีเวลาเหลือเกิน 5 ชั่วโมง) ลองท้าทายตัวเองด้วยการเดินป่าบนเส้นทาง Hazards Beach Circuit ระยะทาง 11 กม. ซึ่งคุณจะได้เห็นวิวของ Wineglass Bay ที่สวยสะกดสายตามากกว่าเดิม 

Freycinet National Park ไม่ได้มีดีแค่ Wineglass Bay เท่านั้น เพราะยังมีจุดอื่น ๆ ที่ให้ทัศนียภาพน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กันจนคุณสามารถใช้เวลากับที่นี่ได้ทั้งวัน ตัวอย่างเช่น Sleepy Bay และ Honeymoon Bay ที่คุณไม่ควรพลาดเด็ดขาด 

 


วันที่ 4: ขับรถไปลอนเชสตัน – แคมป์เบลทาวน์ – Queen Vic Museum 


หลังจากพักผ่อนที่เฟรซิเน็ตจนพอใจแล้ว ก็ถึงเวลาขับรถตรงไปยังเมืองลอนเชสตัน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของรัฐแทสมาเนียที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหาร ไวน์ วัฒนธรรม และอย่างอื่นอีกมากมาย


แคมป์เบลทาวน์

แคมป์เบลทาวน์อย่ห่างจาก Freycinet National Park ไปแค่หนึ่งชั่วโมง เหมาะกับการแวะพักรับประทานอาหารเติมพลัง ก่อนจะขับรถเดินทางต่อไปยังเมืองลอนเชสตัน

ถ้าคุณเดินไปตามถนนเส้นหลักของเมืองแคมป์เบล ยากที่คุณจะไม่เจออะไรแปลกตา เพราะคุณจะเห็นอิฐสีแดงทอดยาวตลอดเส้นทาง และเมื่อลองสังเกตใกล้ ๆ ก็จะเห็นข้อความพูดถึงชะตาชีวิตของผู้คนในอดีต นี่คือเส้นทางที่เราเรียกกันว่า Convict Trail 


อิฐสีแดงเหล่านี้ประทับชื่อและความคิดทางอาญาไปตลอดเส้นถนน แม้ว่าจะเป็นการประจานผู้กระทำความผิด แต่ความผิดส่วนใหญ่ล้วนเกิดขึ้นมาจากการไม่มีทางเลือกทั้งนั้น อาชญากรรมอย่างเช่น “ขโมยหมู”, “ขโมยขนมปัง” และ “ขโมยแกะ” มีเยอะมาก และมีรุนแรงเท่ากัน ใครจะไปคิดว่าการขโมยหมูในสมัยนั้น โทษรุนแรงถึงขั้นต้องติดคุก 7 ปีเลย

หากออกไปไม่ไกลคือ Zeps คาเฟ่บรรยากาศสบาย ๆ ที่เสิร์ฟอาหารร้อนและของหวานแสนอร่อย แค่จ้องมองเค้กสวย ๆ ในตู้เย็นก็ฟินแล้ว แนะนำให้สั่งแซนด์วิชสเต็ก (14.50 ดอลลาร์ออสเตรเลีย) กับเลมอนทาร์ต (ดอลลาร์ออสเตรเลีย) มารับประทานเป็นอาหารกลางวัน รับรองว่าคุณไม่ผิดหวังแน่นอน


ที่อยู่: 92-94 High St., Campbell Town, Tasmania 7210, Australia
เวลาเปิดทำการ: 7.00 ถึง 20.00 (จันทร์ - ศุกร์), 8.00 ถึง 20.00 (เสาร์และอาทิตย์)


หลังอาหารกลางวัน ลองแวะไปที่ร้านหนึ่งสือ The Book Cellar และ The Overflow ซึ่งมีห้องใต้ดินเก่าแก่และเป็นสำนักงานศาลเก่าแก่ของเมืองตามลำดับ ซึ่งมีการนำพื้นที่เก่าแก่เหล่านี้มาใช้เป็นแหล่งอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ของเมืองแคมป์เบลได้อย่างชาญฉลาด ไม่เช่นนั้นอาคารก็คงถูกทำลายไปแล้ว 


หากคุณชอบอะไรวินเทจ คุณคงไม่อาจต้านทานความเย้าบวนของหนังสือเก่าของ Dickens หรือ Shakespearen ที่ตีพิมพ์เมื่อหนึ่งร้อยปีมาแล้วอย่างแน่นอน หนังสือส่วนใหญ่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี และจำหน่ายในราคาแค่ 2.5 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อเล่มเท่านั้น ถูกมาก เมื่อเทียบกับการได้นำส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์กลับบ้านไปด้วย 


The Book Cellar
ที่อยู่: Foxhunters Return, High St., Campbell Town TAS 7210, Australia
เวลาเปิดทำการ: 10.00 – 16.00 น. ทุกวัน


The Overflow Book Shop
ที่อยู่: Old Courthouse, 103 High St, Campbell Town TAS 7210, Australia
เวลาเปิดทำการ: 10.00 – 16.00 น. ทุกวัน


Queen Victoria Museum


สำหรับใครที่อยากชมผลงานจัดแสดงและนิทรรศการที่หลากหลาย Queen Victoria Museum จะถือเป็นไฮไลท์ของเมืองลอนเชสตันเลยทีเดียว นี่ที่มีทุกอย่างที่คุณคิดว่าน่าจะพบเห็นได้ในพิพิธภัณฑ์ ทั้งประวัติศาสตร์ธรรมชาติ งานวิจิตรศิลป์ ศิลปะตกแต่ง หัวรถจักร หรือแม้แต่ดาราศาสตร์ ยิ่งกว่านั้นก็คือ เข้าชมฟรี 


ค่าเข้า: ฟรี
ที่อยู่: 2 Invermay Road, Launceston TAS 7248, Australia
เวลาเปิดทำการ: 10.00 – 16.00 น. ทุกวัน

 

จบทริปของวันนี้ด้วยการรับประทานอาหารค่ำที่ Leevee Food Co. ซึ่งเป็นร้านโปรดของทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีสเต็กและอาหารทะเลของแทสมาเนียให้เลือกเยอะมาก 

พิซซ่าเห็ด (9.5 ดอลลาร์ออสเตรเลีย) โปะแน่นมาด้วยซอสกระเทียมหอมมัน ที่จะระเบิดรสชาติออกมาทันทีภายในปาก 


หอยนางรมแทสมาเนียนแปซิฟิก (16.70 ดอลลาร์ออสเตรเลีย/6 ตัว, 26 ดอลลาร์ออสเตรเลีย/10 ตัว) เสิร์ฟกับเลมอนและพริกไทยบุบ 


ที่อยู่: 27 Seaport Blvd, Launceston TAS 7250, Australia
เวลาเปิดทำการ: 10.30 – 20.30 น. (อาทิตย์ – พฤหัสบดี), 10.30 – 21.00 น. (ศุกร์ – เสาร์)
ควรพักที่ไหน: Airbnb ในลอนเชสตัน


วันที่ 5: Cataract Gorge – จอร์จทาวน์ – กลับเมลเบิร์น 

ถ้ามีรถ คุณจะไปที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการรับประทานอาหารเช้าที่ Stillwater ร้านอาหารที่เคยเป็นโรงโม่แป้งเก่า ซึ่งมองไปจะเห็นทัศนียภาพอันงดงามของ Catarat Gorge อาหารเช้าราคาประมาณ 9 - 25 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อจาน


ที่อยู่: 2 Bridge Road, Launceston TAS 7250, Australia
เวลาเปิดทำการ: 8.30 – 23.30 น. (อังคาร, พฤหัสบดี – เสาร์), 8.30 – 16.00 น. (อาทิตย์ – จันทร์), 8.30 – 23.00 น. (พุธ)


Cataract Gorge

หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลามาสำรวจช่องเขาริมแม่น้ำที่ให้ทัศนียภาพของธรรมชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจท่ามกลางความพลุกพลานของเมือง 

ขึ้นกระเช้า(15 ดอลลาร์ออสเตรเลีย/คน) แล้วชมวิวน่าตื่นตะลึงของ Cataract Gorge จากด้านบน กระเช้าเก้าอี้นี้ถือเป็นกระเช้าแบบช่วงเดียวที่ยาวที่สุดในโลก โดยมีระยะทาง 457 เมตร 

ปิดท้ายทริปสนุกและแสนสบายในแทสมาเนียด้วยอาหารมื้ออร่อยที่ Chi Chi Café, ร้านอาหารจีนราคาไม่แพง (10- 20 ดอลลาร์ออสเตรเลีย) และหากคุณอยากดื่มชาอร่อย ๆ ก็สามารถสั่งเพิ่มได้ในราคา 4 ดอลลาร์ออสเตรเลีย 


Chi Chi Café
ที่อยู่: 127 St. John Street, Launceston TAS 7250, Australia
เวลาเปิดทำการ: 9.30 – 20.30 น. (จันทร์ – ศุกร์), 11.00 – 21.00 น. (เสาร์) ปิดวันอาทิตย์


ทริปขับรถเที่ยวเหมาะสำหรับคนที่ชอบเที่ยวเป็นกลุ่มและดื่มด่ำกับความสนุกอย่างช้า ๆ เพราะนอกจากจะไม่ต้องทำเวลาตามใจใคร แต่คุณจะยังสนุกกับการแย่งกินขนมบนรถ และร้องเพลงตามวิทยุอย่างสุดเสียงได้ด้วย หากคุณไม่เคยขับรถเที่ยวมาก่อน แทสมาเนียจะเป็นจุดเริ่มต้นการผจญภัยบนท้องถนนที่ดีมาก เพราะถนนกว้างและเป็นเส้นตรง มีทัศนียภาพงดงามจับตา ซึ่งทอดยาวหลายไมล์ คุณสามารถแวะพักเติมน้ำมันตามทางไปยังจุดหมายต่อไป และชื่นชมความงามของแทสมาเนียได้อย่างเต็มที่


คุณอาจสนใจ

     SHARE
บ้าน ไฮไลท์ แบบทดสอบการเดินทาง ปลายทาง แรงบันดาลใจในการเดินทาง ข้อเสนอ จองตอนนี้ วางแผน เกี่ยวกับ
Select country :
Language :